หลักฐานจากอัลกุรอานและหะดีษที่อธิบายอัลกุรอานที่ผู้เขียนได้ยกมาในตอนแรก เราสามารถถอดบทเรียนดังนี้
1. เป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงความประเสริฐของซัลมาน อัลฟารซีย์ ผู้ยอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งอิสรภาพของตนเอง ท่านต้องอดทนและยอมพบกับความยากลำบากที่ยาวนานกว่าค้นหาสัจธรรมจากเมืองเปอร์เซียสู่เมืองมะดีนะฮ์พร้อมศรัทธาต่อท่านนบี ตามปรากฏในประวัติศาสตร์
(อ่านเพิ่มเติมที่ ท่านซัลมาน อัลฟารซีย์)
เพราะดัชนีชี้วัดความประเสริฐในอิสลามมิได้อยู่ที่ชาติตระกูล ฐานะทางสังคมภาษาและสีผิว รูปร่างและหน้าตา แต่อยู่ที่ความยำเกรง (ตักวา)
2. การที่นบีพูดความประเสริฐของชาวเปอร์เซียว่าหากอีมาน (การศรัทธา) หรือ อัดดีน (ศาสนา) อยู่ที่ดาวลูกไก่ พวกเขาก็ต้องพยายามไขว่คว้ามัน ไม่ได้หมายความนบีเจาะจงอิหร่านในปัจจุบัน ทั้งในแง่ภูมิศาสตร์และประชากรศาสตร์ เพราะเปอร์เซียในอดีตคืออาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ครอบคลุมพื้นที่เอเชียกลางทั้งหมดที่รวมถึง อัฟกานิสถาน คูรอซาน เตอร์กิสถานตะวันออกและตะวันตก อุซเบกิสถาน คาซาคัสถาน คีร์กีซสถาน อัสฟาฮานและดินแดนที่อยู่พ้นแม่น้ำออกซุส หรือที่เรียกว่า ทรานซอกเซียนา (ดู ทรานซอกเซียนา – Google Search https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B2 )
ณ ดินแดนแห่งนี้ คืออู่อารยธรรมและตักศิลาแห่งวิทยาทานอิสลามที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต หลังจากนบีพูดประโยคดังกล่าวไม่ถึง 200 ปี ชาวเปอร์เซียในบริเวณดังกล่าวได้กลายเป็นเหล่าอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ในทุกแขนงวิชาและศาสตร์อิสลาม ทั้งสาขาตัฟซีรกุรอาน หะดีษ ฟิกฮ์ ภาษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ฯลฯ
ใครบ้างที่ไม่รู้จักอบูฮามิดอัลฆอซาลีย์อัฏฏูซีย์
หากเอ่ยชื่อแค่ ซะมัคชะรีย์หรืออัรรอซีย์ อัลบุคอรีย์ มุสลิมหรือเจ้าของตำราสุนันทั้ง 6 สิบาวัยฮ์ อิบนุซินา ญาบิร์บินหัยยาน คุวาริซมีย์ อิบนุฮัยซัม ฟะรอบี เชื่อว่ามุสลิมทุกคนต้องรู้คูณูปการอันยิ่งใหญ่ต่ออิสลามของบรรพขนเหล่านี้ ที่แม้กระทั่งอิบนุค็อลดูน กล่าวว่า ศาสนาอิสลามถือกำเนิดจากประเทศอาหรับก็จริง แต่ผู้คอยปกป้อง เผยแพร่และถ่ายทอดความรู้กลับเป็นคนที่ไม่ใช่อาหรับ
(ดูส่วนหนึ่งอุละมาอฺหะดีษจากเมือคุรอซาน تصنيف علماء حديث مر خراسان – Google Search)
ว่ากันว่า ตำราต้นแบบของตัฟซีรอัลกุรอานมีประมาณ 42 ชื่อเรื่อง ในจำนวนนี้มี 23 ตัฟซีร ที่ผู้แต่งเป็นชาวเปอร์เซีย ( ดู تصنيف علماء تفسير القرآن من الفرس – Google Search)
ชาวปอร์เซียในอดีต ได้พิสูจน์คำพูดของนบีว่าเป็นความจริงมาแล้ว และพวกเขาได้ไขว่คว้าศาสนาและอีมานที่ติดอยู่บนดาวลูกไก่อย่างสำเร็จสมภาคภูมิ
พวกเขาต่างหากที่รับไม้ต่อปฏิบัติภารกิจเผยแพร่อิสลามที่สืบทอดจากบรรดาเศาะฮาบะฮ์ โดยเฉพาะบรรพบุรุษของพวกเขาท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์ رضي الله عنه
ด้วยผลงานอันเยี่ยมยอดของพวกเขา ทั่วแว่นแคว้นเปอร์เซียได้รับอิสลามตามแบบฉบับของรอซูลุลลอฮ์ด้วยห่วงโซ่ที่ไม่เคยขาดตอนที่สืบทอดมาจากบรรดาเศาะฮาบะฮ์ยุคพิชิตเปอร์เซียปี ฮ.ศ. 14 ภายใต้การนำของท่านสพอัด บินอะบีวักก็อศ رضي الله عنه ในยุคสมัยเคาะลีฟะฮ์อุมัร อัลฟารูก رضي الله عنه
ถามว่า ชีอะฮ์อิมาม 12 ผู้ศรัทธาต่อวิลยะตุลฟะกีฮ์ที่รังสรรค์โดยโคมัยนีและสานต่อโดยคอเมเนอีในปัจจุบัน พวกเขาเคยภูมิใจกับบรรพชนเหล่านี้ที่เอ่ยมาข้างต้นไหม เริ่มตั้งแต่ยุคพิชิตเปอร์เซีย ไล่มาถึงยุคอิมามอะบูหะนีฟะห์ อิมามอัลบุคอรี มุสลิม และท่านอื่น ๆนับร้อยนับพัน
ถามว่าพวกเขาเคยมีความสัมพันธ์ในระดับใด มีตำรา หนังสือ บทเรียน หลักสูตรในห้องเรียนที่สอนอย่างเป็นทางการในทุกระดับชั้น หรือมีการบรรยายที่สะท้อนให้เห็นว่า พวกเขาภูมิใจและเป็นไม้ต่อที่สำคัญของบรรดาบรรพชนเหล่านั้นหรือไม่อย่างไร
ทำไมชีอะห์อิมาม 12 พากันเกลียดชังอุมัร อัลฟารูก ทั้ง ๆ ที่เป็นเคาะลีฟะฮ์ที่ทำให้อาณาจักรเปอร์เซียล่มสลาย
ทำไมพวกเขายกย่องผู้สังหารอุมัรว่าเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ พร้อมสร้างกุโบร์อย่างสวยงามในอิหร่าน ทั้ง ๆ ที่จอมสังหารคนนั้นปลิดชีพตัวเองตายที่มะดีนะฮ์ มีหลักฐานชิ้นไหนบ้างว่าศพของเขาถูกขนย้ายด่วนไปที่อิหร่านในสมัยนั้น
ทำไมพวกเขาสาปแช่งเศาะฮาบะฮ์ แม้กระทั่งอะบูฮุร็อยเราะฮ์และอิมามอัลบุคอรี ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้รายงานหะดีษที่พูดถึงความประเสริฐของชาวเปอร์เซียก็ตาม
Mazlan Muhammad