สาระสันทนาการ เดินทาง/ท่องเที่ยว

One day trip with family

เชื่อว่าหลายครอบครัวกำลังวางแผนใช้เวลาหยุดยาวสิ้นปีกับการเดินทางและท่องเที่ยวเพื่อให้รางวัลชีวิตกับสมาชิกในครอบครัว และบางคนเพิ่งเดินทางกลับจากโครงการพาเที่ยวหมาด ๆ

สำหรับครอบครัวที่มีโครงการท่องเที่ยวแบบพอเพียง ในสถานการณ์ New normal เช่นนี้ ขอแนะนำทริปหนึ่งวันพร้อมครอบครัวทริปนี้ครับ โดยเฉพาะชาวจังหวัดยะลาหรือใกล้เคียง หากเป็นคนนอกพื้นที่ขอแนะว่าควรค้างคืนที่ยะลา ก่อนจะตะลุยในวันรุ่งขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่

จุดแรกที่อยากแนะนำคือ จุดชมวิวแห่งใหม่ที่เชิงเขา หมู่ 2 บ้านบันนังลูวา ห่างจากเมืองยะลาไปทางเส้นทางยะหาไม่ถึง 10 กม.  ซึ่งภายหลังการปรับปรุงภูมิทัศน์และถนนเลียบชายคลองเชิงเขาหน้าถ้ำทำให้ชาวบ้านทั้งในและต่างพื้นที่ให้ความสนใจเที่ยวชมเป็นจุดเช็กอินที่ได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม หากไปในชั่วโมงปกติ อาจต้องจอดรถไกลและต้องเดินเข้าอีกหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ แต่หากมาถึงราว 06.00-08.30 น.  ช่วงนี้บรรยากาศยังเงียบเหงาไร้ผู้คน สามารถพารถยนต์เข้ามาในบริเวณได้สะดวก แถมไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ จะมีบ้างก็เป็นชาวบ้านที่ออกมาเดินวิ่งหรือทีมนักปั่นที่มักมาเซลฟี่เก็บภาพเป็นที่ระลึก ก่อนแยกย้ายไปตามเป้าหมายต่อไป

หากใส่ชุดวอร์ม สวมรองเท้า ก็สามารถใช้เวลาช่วงนี้เดินวิ่งเพื่อสุขภาพ เติมเต็มบรรยากาศสุดคลาสิกอีกแบบหนึ่ง ยิ่งมีคลิปตอนออกกำลังกาย โดยมีฉากหน้าผาสูงชันและปากถ้ำที่ดูลึกลับแล้ว รับรองว่าสามารถเพิ่มอรรถรสกับทริปนี้มากมายครับ 

ข้อเสียที่มาในช่วงนี้คือ หากมีเด็กเล็ก ก็จะพลาดโอกาสขึ้นรถไฟหรรษาหรือรถบังคับและเรือเป็ดที่เริ่มเปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงเป็นต้นไป แต่เรามีข้อเสนอด้วยสิ่งทดแทนที่ไฉไลกว่านี้ครับ ส่วนมื้อเช้า ก็สามารถจอดรถริมทางตอนออกจากจุดเช็คอิน มีร้านรวงของชาวบ้านกับอาหารพื้นเมืองที่ทานได้แบบไร้กังวล แต่ถ้าจะให้ฟินสุดๆ ก็เตรียมซื้ออาหารเช้าล่วงหน้า พร้อมเตรียมชาร้อนที่ชงมาจากบ้าน  ปูเสื่อเลียบชายคลองหน้าถ้ำ ก็สร้างมูลค่าเพิ่มกับอาหารมื้อเช้าได้มากโข ที่สำคัญ เวลา 08.00 น. ควรออกจากจุดแรกนี้ เพื่อไปต่อครับ

ออกจากที่นี่ ไปตามถนนสี่เลนยะลา- ดอนยาง สาย 418 ซึ่งอาจแวะเติมน้ำมันรถที่ปั้มปตท . ท่าสาป ทั้งเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าและซื้อขนมขบเคี้ยวตามใจต้องการ เสร็จแล้วก็มุ่งสู่จุดที่สองคือสวนบายใจนิ๊ ยาบีฟาร์ม ใช้เวลาเดินทางปกติจจากปั้มปตท.ท่าสาปประมาณ 15 นาที แต่ขอบอกว่า หากเป็นคนนอกพื้นที่ ควรศึกษาเส้นทางให้ดี อย่าไว้ใจ GPS มากนัก ขนาดไปมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก็เจอปัญหาแทบทุกครา หากจะใช้ GPS ควรปักหมุดที่อบต.ลิปะสะโงครับ ถึงที่นี่ ก็ถึงที่หมายชัวร์ ที่สำคัญต้องถึงที่นี่ ก่อน 9 โมงเช้าครับ เด็ก ๆ จะได้เล่นน้ำจุใจ ไม่ต้องแย่งกับผู้คน ยอมรับว่า หลังปรับปรุงใหม่ ที่นี่น่าจะเป็นสวนสวรรค์กลางทุ่งที่ใหญ่ที่สุดใน 5 จังหวัดภาคใต้ทีเดียวครับ ทั้งบ้านกลางน้ำ สไลเดอร์ สระว่ายน้ำ และเรือเป็ด อาจเผื่อเวลาให้ลูกหลานสนุกสนานที่นี่อย่างน้อยชั่วโมงครึ่ง แต่ขอแนะนำว่า กิจกรรมเล่นน้ำ ควรเป็นกิจกรรมสุดท้ายก็แล้วกัน ช่วงแรกให้เป็นช่วงเวลาเซลฟี่บรรยากาศสวยๆกับการปั่นเป็ดน้ำท่ามกลางบรรยากาศชิว ๆ ไปก่อนครับ  คลื่นมหาชนเริ่มทยอยเข้ามา 10 โมงขึ้นไป คณะของเราก็เริ่มเตรียมตัวออกจากที่นี่โดยพลัน 

เป้าหมายจุดที่สามของทริปนี้คืออาหารมื้อเที่ยงในเมืองปัตตานี ซึ่งมีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมายหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่รสขาติดั้งเดิมประจำท้องถิ่น อาหารสไตล์อาหรับ แขกปากี จีน เกาหลียันญี่ปุ่น ขอบอกว่ามีครบครัน อร่อยทุกเมนู แต่ทริปนี้อยากชวนผู้อ่านพาครอบครัวรับประทานมื้อเที่ยงที่อาเซี่ยนมอลล์ ที่นี่มีเมนูอาหารหลากหลายแสนอร่อย เพราะนอกจากได้มีโอกาสตากแอร์เย็นฉ่ำแล้ว ยังสามารถสนับสนุนธุรกิจวากัฟของพี่น้องมุสลิม ปลูกฝังลูกหลานให้มีความเคยชินกับการบริจาคทาน แม้ด้วยสิ่งเล็กน้อยก็ตาม ที่สำคัญได้ร่วมละหมาดยะมาอะฮ์พร้อมกันที่มัสยิด ซึ่งอยู่ติดกับห้างอย่างสบายอุรา ไปทริปไหน อย่าลืมปลูกฝังลูกหลาน ละหมาดร่วมกันที่มัสยิดด้วยครับ อีกเรื่องขอย้ำเรื่องความสะอาด

ยามบ่ายแก่ ๆ ก็เคลื่อนสมาชิกไปทัศนศึกษาตำนานโบราณสถานอันเป็นคู่บ้านคู่เมืองปาตานีในอดีต นั่นคือมัสยิดกรือเซะ ใช้เวลาที่นี่สัก 30 นาทีในการเก็บภาพและศึกษาประวัติศาสตร์ แล้วมุ่งหน้าสู่บางปู ชมมัสยิดตะอาวุน อันสวยงามตระการตา พร้อมขึ้นเรือลอดอุโมงค์โกงกางบนเส้นทางป่าชายเลนสุดอุดมสมบูรณ์ระดับประเทศทีเดียว สามารถติดต่อ ขอจองล่วงหน้าได้ตามสื่อโชเชียลและเฟสบุ๊คเพจได้ไม่ยากเย็น เผื่อเวลากับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่นี่สักชั่วโมงครึ่ง ก็สามารถดื่มด่ำบรรยากาศเต็มอิ่มแล้วครับ ขอบอกว่า ความสวยงามทั้งทางธรรมชาติและอัธยาศัยของชุมชนที่นี่ คือมนต์เสน่ห์ของบางปูที่คุณอาจลืมไม่ลง 

จบทริปวันนี้ที่ชายหาดตะโล๊ะสะมีแล อ. ยะหริ่ง จ .ปัตตานี สามารถแหวกว่ายท่ามกลางเกลียวคลื่นและน้ำทะเลใส ๆ ชวนให้ลงไปสัมผัสคลื่นเบา ๆ ชิมบรรยากาศความเป็นธรรมชาติริมเล สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มปอด

หลังชมตะวันตกดินที่แหลมตาชี ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่หากจะอยู่ต่อ ก็สามารถค้างคืนเพื่อกิจกรรมปิ้งย่างช่วงกลางคืนและชมดวงอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้น โดยค้างแรมตามโฮมสเตย์ที่ขึ้นราวดอกเห็ด ราคามีตั้งหลักร้อยถึงหลักพัน หากจะให้ชัวร์ ควรจองล่วงหน้าครับ รับรองว่า เป็นค่ำคืนที่คงหลับยาว เพราะน่วมกับทริปอันแสนวิบากนี้ จึงขอแนะนำว่า ควรหาโฮมสเตย์ที่มีแอร์นะครับ

เป็นความสุขใกล้ตัวที่หาได้จากที่นี่ เด็ก ๆ เล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน ผู้ปกครองได้พักผ่อนหย่อนใจพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ วิถีแห่งความเรียบง่ายด้วยสโลว์ไลฟ์ที่หลายคนใฝ่หา ปลายด้ามขวานแห่งนี้ ยังคงมีความงดงามของธรรมชาติ ทุกคนมีน้ำใจ เป็นความจริงที่สัมผัสได้และยังคงอยู่ในดินแดนแห่งนี้ 

สุดท้ายจริง ๆ ไปเที่ยวที่ไหน ขอให้รักษาอย่างน้อยสามอย่างนี้ครับ 1. รักษาละหมาด 2. รักษามารยาท และ 3. รักษาความสะอาด


โดย Mazlan Muhammad