ข่าว ข่าวโลกอิสลาม

4 บุคคลทรงอิทธิพลในซีเรีย

หลังจากซีเรียต้องอยู่ภายใต้อุ้งมือของ 2 พ่อลูกตระกูลอะสัดมานานกว่า 50 ปี ซีเรียมีบุคคลอย่างน้อย 4 คนที่ทรงอิทธิพลเหนือดินแดนชาม ได้แก่

            1.         ฮาฟิศ อะสัด ถือกำเนิดที่เมืองลาซิกียะฮ์ ถิ่นผู้นับถือลัทธินุศ็อยรีย์มีจำนวนไม่ถึง 5% ของประชากรซีเรียซึ่งมีจำนวนกว่า 90% ของประเทศเป็นมุสลิมสุนหนี่ สมัยที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในปี 1967 เขาได้ฝากผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการขายที่ราบสูงโกลันให้แก่อิสราเอลในละครสงคราม 6 วันด้วยการรับสินบนจำนวน 6 ล้านดอลลาร์ ในปี 1970 เขาได้รับการคัดเลือกเป็นผู้นำด้วยคะแนนสนับสนุนท่วมท้นจำนวน 99.98 % โดยมีเสียงไม่เห็นด้วยเพียง 219 เสียงเท่านั้น เขาปกครองซีเรียทั้งประเทศเหมือนเป็นเรือกสวนไร่นาของตัวเอง ท่ามกลางน้ำตา คราบเลือดและซากศพของผู้บริสุทธิ์ชาวมุสลิมสุนหนี่ผู้บริสุทธิ์ เขาเสียชีวิตหลังจากสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าเหนือแผ่นดินซีเรียเมื่อปีค.ศ. 2000 ขณะอายุ 70 ปี

            2.         ชัยค์อัลอัลลามะฮ์ มูฮัมมัด สะอี้ด รอมฎอนอัลบูฏีย์ ชาวเคิร์ดผู้ถือกำเนิดที่ตุรกี แต่อพยพพร้อมบิดาและครอบครัว ไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่กรุงดามัสกัส ซีเรีย เป็นอุละมาอฺผู้ยิ่งใหญ่สายอะชาอิเราะฮ์ ด้วยผลงานทางวิชาการด้านอิสลามศึกษามากมาย ชัยค์อัลบูฏีย์ถือเป็นผู้สนับสนุนผู้นำ 2 พ่อลูกตระกูลอะสัดอย่างสุดซอย ท่านได้นำละหมาดญะนาซะฮ์ของนายฮาฟิศ อะสัด และร่ำไห้ต่อหน้าศพอย่างอาลัยอาวรณ์ หลังจากนายบาสิล อะสัด(ลูกชายคนโตของนายฮาฟิศอะสัด) เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ ท่านบอกว่าได้ฝันว่านายบาสิลอยู่ในสวรรค์ นอกจากนี้ท่านยังกล่าวขื่นชมนายหะซัน นัศรุลลอฮ์ ผู้นำฮิสบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ท่านเสียชีวิตในเหตุการณ์ลอบสังหารด้วยระเบิดในมัสยิดที่ท่านสอนหนังสือเมื่อปี 2013 ขณะมีอายุ 84 ปี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้านบวกและลบ โดยเฉพาะจุดยืนของท่านที่ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงรัฐบาลของชาวซีเรีย

غفر الله له  وتجاوز عنه ورحمه وأدخله فسيح جناته

          3.         ชัยค์อัลอัลลามะฮ์มูฮัมมัด อาลี อัศศอบูนีย์

อุละมาอฺผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค เกิดเมื่อ 1 มกราคม 1930 ที่เมืองหะลับ(แอเลบโป) ซีเรีย เสียชีวิตแล้ว เมื่อ 19 มีนาคม 2021 ขณะอายุ 91 ปี ถือเป็นการสูญเสียผู้รู้ที่สำคัญในโลกอิสลามโดยเฉพาะด้านตัฟซีรอัลกุรอาน เจ้าของผลงานตำราด้านอิสลามศึกษากว่า 50 เล่ม

ถูกรัฐบาลซีเรียยุคฮาฟิศอะสัด ขึ้นบัญชีดำหมายหัว เนื่องจากท่านมีทัศนะว่า ผู้นำคนไหนที่ก้าวขึ้นมามีอำนาจโดยวิธีการบังคับและการใช้กำลัง ผู้นำคนนั้นจะต้องได้รับการต่อต้านจากประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้นำเรียกร้องประชาชนให้ปฏิเสธพระเจ้าและสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าอย่างฮาฟิศอะสัด

ชัยค์อัศศอบูนีย์ได้วิจารณ์นายบัชชาร์ อะสัด ประธานาธิบดีซีเรียคนปัจจุบันว่าเป็น มุสัยลิมะฮ์ อัลกัซซาบ และตักเตือนชัยค์มูฮัมมัด รอมฎอน อัลบูฏีย์ ด้วยคำตักเตือนที่รุนแรงชนิดไม่อ้อมค้อม เพราะชัยค์อัลบูฏีย์สนับสนุนนายฮาฟิศ อะสัด และบัชชาร์ อะสัด รวมทั้งไม่เห็นด้วยที่ขาวซีเรียลุกขึ้นประท้วงนายบัชชาร์อะสัดเมื่อปี 2011

ด้วยจุดยืนอันดุดันและมั่นคงที่สนับสนุนและเคียงข้างการประท้วงของชาวซีเรีย ทำให้สื่ออาหรับและชาวซีเรียตั้งฉายาท่านว่า “الشيخ الثائر” หรือผู้เฒ่านักปฏิวัติและถือเป็นอุละมาอฺผู้ยืนหยัดพูดสัจธรรมต่อหน้าผู้นำเผด็จการ

غفر الله له ورحمه رحمة واسعة وأدخله فسيح جناته ورزق لأهله وذويه الصبر والسلوان

            4.         บัชชาร์ อะสัด

ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีปี 2000 หลังอสัญกรรมของบิดานายฮาฟิศ อะสัด และยังอยู่ยงคงกระพันในอำนาจจนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 22 ปีแล้ว ผลงานเถื่อนในระยะเวลา 10 ปีหลังนี้คือการทำให้ประเทศซีเรียทั้งประเทศกลายเป็นทุ่งสังหารและดินแดนมิคสัญญีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ทำให้มีผู้อพยพกว่า 10 ล้านคน ประชาชนถูกสังหารกว่า 1 ล้านคน บ้านเรือนและอาคารถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง แต่เขายังนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้นำสูงสุดของซีเรียอย่างเหนียวแน่น

3 คนได้จากไปแล้วด้วยผลงานอันมากมายทั้งดีและชั่ว ทั้งบวกและลบ แต่การตัดสินที่ยุติธรรมที่สุด ละเอียดที่สุดแม้เท่าผงธุลี คือการตัดสินของพระเจ้าผู้ทรงยุติธรรมและทรงรอบรู้ ทั้ง 3 ท่านกำลังได้รับการพิจารณาและรับผลอานิสงค์ที่ตนเองได้กระทำแล้ว

ส่วนอีกคน กำลังโลดแล่นบนยุทธจักรเถื่อนมากมาย เขาอาจจะรอดพ้นจากการตัดสินและได้รับการอุ้มชูจากมหาอำนาจบนโลกนี้ แต่เขาไม่มีวันรอดพ้นจากการพิพากษาของพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาลอย่างแน่นอน


โดย Mazlan Muhammad