รายงานความช่วยเหลือจากพื้นที่ (1)

#4UGAZA 13th

หลังจากเราได้รับมอบเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทจากมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันในวันที่   25 ตุลาคม 2568  เราได้ทำข้อตกลงว่าจะจัดสรรงบประมาณนี้เพื่อดำเนินโครงการใน 3 โครงการย่อย ดังนี้

            1.         ซื้อเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ AL-Wafa Hospital

            2.         โครงการซื้อน้ำดื่ม

            3.         โครงการแจกถุงยังชีพ

ในเบื้องต้นมูลนิธิฯ ได้ซื้อเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่โรงพยาบาลอัลวาฟา เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งมีผู้ป่วยและผู้รับบาดเจ็บหลายร้อยคนกำลังรอคอยความช่วยเหลืออยู่ โดยเครื่องผลิตออกซิเจนและอุปกรณ์การแพทย์อื่น ๆ ต้องการกระแสไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่โรงพยาบาลยังขาดแคลนอุปกรณ์เหล่านี้และที่มีอยู่ก็ใช้งานไม่ได้

“ถึงแม้ราคาอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวจะมีราคาเพิ่มสูงถึง 10 เท่าหากเทียบกับราคาก่อนสงคราม แต่เราจำเป็นต้องซื้อ เช่นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ก่อนสงครามเราสามารถซื้อได้ในราคาเพียง 300 ดอลลาร์แต่ปัจจุบันราคาสูงถึง 3,000 ดอลลาร์” ดร. ชารีฟกล่าว

ส่วนโครงการที่ 2 โครงการซื้อน้ำดื่ม ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันชาวกาซ่ากำลังประสบภาวะขาดแคลนน้ำดื่มขั้นวิกฤต ในขณะที่อิสลามสอนว่า การบริจาคทานที่ประเสริฐที่สุดคือการบริจาคน้ำดื่ม (นัยหะดีษรายงานโดยนะซาอีย์/3664,อะบูดาวูด/1681) เราจึงมุ่งมั่นจัดโครงการนี้  ซึ่งในวันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา เราสามารถซื้อน้ำบริสุทธิ์จำนวน 150,000 ลิตร และแจกจ่ายให้ชาวกาซ่าจำนวน 250,000 คน โดยแต่ละคนสามารถรับน้ำดื่มได้เฉลี่ยคนละ 6 ลิตรเพื่อบริโภคในระยะเวลา 2-3 วัน

ดร.ชารีฟอธิบายเพิ่มเติมว่า ชาวกาซ่าต้องการน้ำดื่มวันละ 7 ล้านลิตร แต่ปัจจุบันพวกเขาได้รับเพียงวันละไม่เกิน 5 แสนลิตรเท่านั้น

ส่วนโครงการแจกถุงยังชีพ มูลนิธิอัลกุดส์จะดำเนินการในระยะเวลาอันใกล้นี้และจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป

الحمد لله الذي بنعمته تتم الصالحات


ทีมข่าว theustaz.com

ความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวไทยครั้งที่ 13 สู่กาซ่า

วันที่ 25 ตุลาคม 2568

12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 1. มอบให้ International Education Scientific and Cultural Organization (iESCO) เพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียการสอนและอาหารกลางวันแก่นักเรียนในโรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่า จำนวน 3,000,000 บาท

Mr. Ayman Hussein CEO,iESCO เป็นผู้รับมอบ

 2. มอบให้ Salam for Humanity  เพื่ออุปถัมป์เด็กกำพร้าจำนวน 240 คน เป็นเวลา 6 เดือนจำนวน 3,000,000 บาท

โดยมี Mr. Bilal A.K. Alhamadin ผู้อำนวยการสำนักงาน ฯ เป็นผู้รับมอบ

 3. มอบให้ Al-Quds Foundation-Malaysia เพื่อจัดโครงการถุงยังชีพ ครัวเคลื่อนที่และความช่วยเหลือฉุกเฉิน จำนวน 3,000,000 บาท

โดยมี Dr. Sharif Abu Shammalah ประธานมูลนิธิ ฯเป็นผู้รับมอบ

โดยในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันได้มอบเงินให้แก่สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนซื้อยาและเวชภัณฑ์ให้แก่โรงพยาบาลชะฮีดุลอักศอ กาซ่าโดยมีนายแพทย์อนันต์ชัย ไทยประทาน ประธานสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรีเป็นผู้รับมอบ

ผศ. มัสลัน มาหะมะ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า  “สืบเนื่องจากวิกฤตมนุษยธรรมที่รุนแรงที่สุดที่กำลังเกิดขึ้นที่กาซ่า ปาเลสไตน์ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานล่าสุดระบุว่า เด็กกว่า 30,000 คนต้องกำพร้าพ่อ 4,417 คนต้องกำพร้าแม่ และ 1,918 คนต้องกำพร้าทั้งพ่อและแม่ 2,483 ครอบครัวที่ได้สูญหายจากสำมะโนครัว 67,000 คนที่ชะฮีด โดยในจำนวนนี้ 20,179 คนเป็นเด็ก 169,800 รายที่พิการ 42,000 รายที่ทุพพลภาพ มี1,661 แหล่งเรียนรู้เสียหายยับเยิน ในจำนวนนี้มีมหาวิทยาลัยจำนวน 29 แห่งถูกทำลาย โรงเรียนเสียหาย 534 หลัง เด็ก ๆ กว่า600,000 คนไม่มีที่เรียน บ่อน้ำกว่า 2,512 แห่งใช้การไม่ได้ ระบบน้ำประปาจำนวน 335 จุดเสียหาย โรงพยาบาล 34 แห่งและสถานีอนามัย 212 แห่งไม่สามารถให้บริการได้ พื้นที่เกษตรกรรมจำนวน 112,930,000 ตร.ม. ( 70,581 ไร่) ถูกทำลาย”

 “มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันในฐานะองค์กรสาธารณะกุศลที่ให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ดำริจัดโครงการนี้ร่วมกับองค์กรพันธมิตรจากชายแดนจังหวัดภาคใต้กว่า 70 องค์กรภายใต้การกำกับดูแลจากสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาส และสถาบันอัสสลามมหาวิทยาลัยฟาฏอนี เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ลบล้างข้อบิดเบือนต่าง ๆ ที่นำเสนอโดยสื่อกระแสหลักที่ได้จงใจแปลข่าวสารที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศผู้รุกรานและสร้างภาพลักษณ์เชิงลบแก่ประชาชนผู้ถูกอธรรม รวมทั้งระดมความช่วยเหลือเร่งด่วนด้านมนุษยธรรมแก่พี่น้องชาวกาซ่า “ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวเพิ่มเติม

มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันและภาคีพันธมิตรได้จัดโครงการในลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกจัดขึ้นที่อาเซี่ยนมอลล์ ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสามารถระดมเงินบริจาคจำนวน  4,605,200 บาท ครั้งที่สองจัดขึ้นที่โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2568 สามารถระดมเงินบริจาคจำนวน 5,513,306 บาท

นอกจากนี้ ยังได้ระดมบริจาคผ่านสื่อโชเชียล เวทีบรรยายและงานพบปะต่าง ๆตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 19,637,108 บาท  (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2568) โดยเงินจำนวนนี้ได้ส่งมอบความช่วยเหลือด้วยการจัดโครงการเร่งด่วน 12 โครงการผ่าน 3 องค์กรหลัก ในพื้นที่ที่ทำงานด้านมนุษยธรรม การฟื้นฟูและเยียวยา

ล่าสุด  #4UGAZA@YALA  ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา  ด้วยพลังสามัคคีของพี่น้องในพื้นที่ผ่านมัสยิดต่าง ๆ องค์กรและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชมรม สมาคมและบริษัทร้านค้า (หลังจากได้รับเตาฟิกและการอนุมัตจากอัลลอฮ์) มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันสามารถระดมเงินบริจาค ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2568 เป็นเงินจำนวน  10,018,438 บาท الحمد لله الذي بنعمته تتم الصالحات


ทีมข่าว Theustaz.com

โรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่า ความฝันที่เป็นจริง

ประธานมูนิธิเรือนร่างเดียวกัน ผศ. มัสลัน มาหะมะ กล่าวว่าหลังจากได้ทำข้อตกลงร่วมกับ iESCO ในคราวจัดงาน #4UGAZA@AseanMall, Pattani เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ทางมูลนิธิได้รณรงค์เพื่อระดมทุนสร้างโรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่า โดยได้รับความร่วมมือจากพี่น้องอย่างล้นหลาม จนสามารถระดมเงินบริจาคจำนวน 5 ล้านบาทครบตามเป้าที่กำหนด เพื่อเป็นงบก่อสร้างอาคารเรียนจำนวน 10 ห้อง รองรับนักเรียนได้ 300 คน

บัดนี้ มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันได้รับรายงานจากฝ่ายรับผิดชอบในพื้นที่ว่า การก่อสร้างโรงเรียนได้สำเร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เปิดรับนักเรียนเข้าเรียนอย่างเป็นทางการตามแผนทุกประการ โดยได้จัดพิธีเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568

وجزاك الله خيرا

والحمد لله رب العالمين


ทีมข่าวต่างประเทศ

IUMS เรียกร้องอียิปต์และ ชีค อัลอัซฮัรเร่งยุติการล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา พร้อมเปิดด่านราฟะห์ด่วน

โดฮา – 19 กรกฎาคม 2025

ดร.อะลี มุฮัมมัด อัซ-ศอลลาบี เลขาธิการสหภาพฯ เตือนว่า ชาวกาซากำลังเผชิญ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยความหิวโหย” ซึ่งเป็นการละเมิดทั้งศาสนบัญญัติและหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง โดยระบุว่า “ประชาชนอียิปต์คือผู้ที่มีพลังและบทบาทในการหยุดยั้งโศกนาฏกรรมนี้ได้”

พร้อมกันนี้ เขาได้เรียกร้องไปยัง ชีค อัลอัซฮัร ให้แสดงจุดยืนชัดเจนและออกฟัตวาห้ามการปิดล้อมและการฆ่าชาวปาเลสไตน์ด้วยการตัดเส้นทางความช่วยเหลือ โดยย้ำว่า “คำพูดจากอัลอัซฮัรมีน้ำหนักและอิทธิพลในโลกมุสลิม และถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้เสียงนั้นเพื่อปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์”

สหภาพฯ อ้างข้อมูลจากองค์กรนานาชาติที่ระบุว่า เด็กกว่า 1 ล้านคนในกาซาประสบภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง โรงพยาบาลหลายแห่งหยุดทำงาน ขณะที่อิสราเอลยังคงปิดล้อมไม่ให้ความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่

ศอลลาบีย้ำว่า “การใช้ความหิวโหยเป็นอาวุธถือเป็นอาชญากรรมตามกฎหมายสากล และชาวโลกจะสนับสนุนอียิปต์หากกล้าฝ่าการปิดล้อมเพื่อยุติหายนะนี้”

#กาซากำลังตายเพราะความหิว #เปิดด่านราฟะห์ #อียิปต์

https://iumsonline.org/ar/ContentDetails.aspx?ID=39683


ทีมข่าว Theustaz.com

นักวิชาการเยเมนชื่อดังถูกกองกำลังติดอาวุธฮูธีลอบสังหาร

กองกำลังติดอาวุธฮูธีล้อมบ้านของท่านด้วยรถทหารกว่า 20 คัน ก่อนจะโจมตีด้วยอาร์พีจีและอาวุธหนัก ทำให้บ้านถูกเผา และขังคู่สามีภรรยาสูงอายุไว้ข้างใน

มีรายงานว่าการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ชัยคฺ Saleh Hantous ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของกลุ่มฮูธีให้หยุดสอนอัลกุรอานและภาษาอาหรับให้กับเด็ก ๆ ในมัสยิดของหมู่บ้าน

พวกเขาวางระเบิดบ้านของท่าน ทำลายมัสยิดของท่าน เผาโรงเรียนสอนอัลกุรอานของท่าน และสังหารท่านอย่างเลือดเย็นต่อหน้าภรรยาของท่าน

ชัยคฺ Saleh Hantous เป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาและการศึกษาใน Raymah ท่านใช้เวลากว่า 40 ปีในการสอนอัลกุรอานและบริหารโรงเรียนสอนอัลกุรอาน จนกระทั่งถูกปิดตัวลงโดยกองกำลังติดอาวุธฮูธี

การสังหารท่านก่อให้เกิดความโกรธแค้นและการประณามอย่างกว้างขวางทั่วโลก

Cr : Zahid Akhtar

——————

เราย่อมต้องประณามอย่างรุนแรงต่อความผิดในการสังหารชัยคฺและครอบครัวของท่าน

ส่วนหนึ่งจากแถลงการของ สหภาพนักปราชญ์โลกมุสลิม (IUMS) ที่มีต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้

ในอิสลามบาปที่ร้ายแรงที่สุดในบรรดาบาปที่อัลลอฮ์ทรงกริ้วหลังจากชิริก คือการสังหารชีวิตอย่างอยุติธรรม ตามที่อัลลอฮ์ ﷻ ตรัสไว้ว่า

“และผู้ใดที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนา การตอบแทนของเขาคือนรก ซึ่งเขาจะอยู่ในนั้นชั่วนิรันดร์ และอัลลอฮ์ทรงกริ้วโกรธเขาและสาปแช่งเขา และทรงเตรียมการลงโทษครั้งใหญ่ไว้สำหรับเขา” (อัลกุรอาน 4:93)

อาชญากรรมร้ายแรงอีกประการหนึ่งได้แก่ การขัดขวางการรำลึกถึงอัลลอฮ์ในมัสยิดของพระองค์ การทำลายมัสยิด และการมุ่งเป้าที่จะทำลายล้างมัสยิด อัลลอฮ์ ﷻ ตรัสว่า:

“และใครเล่าจะเป็นผู้อธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่หวงห้ามบรรดามัสยิดของออัลลอฮ์ ในการที่พระนามของพระองค์จะถูกกล่าวในมัสยิดเหล่านั้น และพยายามในการทำลายมัสยิดเหล่านั้นด้วย ชนเหล่านี้แหละไม่บังควรแก่พวกเขาที่จะเข้าไปในมัสยิดเหล่านั้น นอกจากในฐานะผู้เกรงกลัวเท่านั้น และเขาเหล่านั้นจะได้รับความอัปยศในโลกนี้ และในปรโลกนั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวง” (อัลกุรอาน 2:114)

ในบริบทนี้ สหภาพนักปราชญ์โลกมุสลิม ขอประณามอย่างรุนแรงถึงอาชญากรรมร้ายแรงในการลอบสังหารชัยคฺแห่งอัลกุรอาน และผู้ก่อตั้งศูนย์อัลกุรอานในเยเมน ชัยคฺ Saleh Hantous ซึ่งถูกสังหารพร้อมกับครอบครัวของท่านในการโจมตีด้วยอาวุธอย่างโหดเหี้ยม การรุกรานอันเป็นบาปนี้มุ่งเป้าไปที่สารแห่งความรู้และอัลกุรอาน ตลอดจนชีวิตและสถาบันอัลกุรอานในเยเมน

Cr: Fittree Puttawach


ทีมข่าว Theustaz.com

#4UGAZA 12th

มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันมอบเงินช่วยเหลือกาซ่ารอบที่ 12 จำนวน 4.1 ล้านบาท

4 มิถุนายน 2568

10.00 น.

ผศ.มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน กล่าวว่า : “ จากการที่มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันจับมือ 39 องค์กรในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จัดงาน #4UGAZA@MENARA ภายใต้สโลแกน Goncang Menara เมื่อ 31 พฤษภาคม 2568 โดยในเบื้องต้นได้จัดสรรให้ความช่วยเหลือแก่ 3 องค์กรที่ทำงานในพื้นที่ จำนวน 4,100,000 บาทได้แก่

1) International Education Scientific and Cultural Organization (iESCO) จำนวน 2,800,000 บาท (รอบที่ 3) เพื่อสมทบโครงการสร้างโรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่า โดยมี Mr. Ayman Hussein CEO,iESCO เป็นผู้รับมอบ ซึ่งบัดนี้ได้ส่งมอบครบ 5 ล้านบาทตามที่ได้ตกลงระหว่างสองฝ่ายแล้ว

2) Salam for Humanity จำนวน 650,000 บาท เพื่อสมทบโครงการกุรบาน 1446 ฮิจเราะห์ศักราช และอาหารถุงยังชีพ โดยมี Mr. Bilal A.K. Alhamadin ผู้อำนวยการสำนักงาน ฯ เป็นผู้รับมอบ

(3) Al-Quds Foundation-Malaysia จำนวน 650,000 บาท เพื่อสมทบโครงการกุรบาน 1446 ฮิจเราะห์ศักราช และอาหารถุงยังชีพ โดยมี Dr. Sharif Abu Shammalah ประธานมูลนิธิ ฯเป็นผู้รับมอบ” ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันกล่าวเพิ่มเติม

‎تقبل الله صالح أعمالنا وجزاكم الله خيرا


ทีมข่าวต่างประเทศ

#4UGAZA 10th

วันที่ 22 เมษายน 2568

ผศ.มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน พร้อมด้วยนายเมธา เมฆารัฐ รองประธานมูลนิธิฯ ดร.ไพศาล อาแซ เลขานุการ นายอัสอารีย์ เจะเลาะ นายทะเบียน และนายอูซามะห์ มาหะมะ เจ้าหน้าที่ธุรการ ได้เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือสร้างโรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่า (รอบแรก) จำนวน 1,200,000 บาท โดยมี Mr. Ayman Hussein  ในฐานะ CEO, International Education Scientific and Cultural Organization (IESCO) เป็นผู้รับมอบและผู้รับผิดชอบโครงการ

Mr. Ayman Hussein กล่าวขอบคุณมายังพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาที่กาช่า และยืนยันจะดำเนินโครงการสร้างโรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่าให้สำเร็จสมกับความตั้งใจของชาวไทยทั่วประเทศ

คณะมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน ได้เดินทางต่อไปยังกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อมอบความช่วยเหลือให้แก่เด็กกำพร้าชาวกาซ่า ผ่านมูนิธิ HAYAT YOLU จำนวนเงิน 1,300,000 บาท โดยมี Mr. Mohamad Rami ผู้อำนวยการภาคเอเชียตะวันออก HAYAT YOLU และคณะให้การต้อนรับ และรับมอบในวันที่ 23 เมษายน 2568 ณ สำนักงานใหญ่ที่กรุงจาการ์ตา

ผศ. มัสลัน มาหะมะ กล่าวว่า เงินสมทบครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือเด็กกำพร้าชาวกาซ่าจำนวน 160 ราย ภายในระยะเวลา 12 เดือน โดยส่วนหนึ่งของงบประมาณนี้ได้รับการสมทบจากสภาความร่วมมือองค์กรสตรีมุสลิมเพื่อสันติภาพ (สอส.) จำนวน 593,500 บาท โดยมีผศ. ซอลีฮะห์ หะยีสะมะแอและคณะเป็นผู้มอบ

หลังเหตุการณ์พายุแกร่งแห่งอักศอ (ฏูฟานอักศอ) วันที่ 7 ตุลาคม 2566 มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันได้มอบเงินบริจาคเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวกาซ่าไปแล้ว 8 ครั้ง ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ จำนวน 10 โครงการ ผ่านองค์กรในภาคสนามจำนวน 3 องค์กรหลักโดยใช้งบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 9,739,588 บาท  และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ได้จัดงาน #4UGAZA ที่อาเซี่ยนมอลล์ปัตตานี โดยได้รับเงินบริจาคจำนวน 5,710,740 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2568 )

พี่น้องสามารถส่งมอบความข่วยเหลือแก่พี่น้องกาซ่าได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านโอนเข้าบัญชี

ธนาคารอิสลาม

054-1-25763-3

กองทุนเรือนร่างเดียวกันเพื่อมนุษยธรรม

ธนาคารกสิกรไทย

172-3-89822-2

มูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน


ทีมข่าวต่างประเทศ

#4UGAZA 9th [2]

#4UGAZA 9th [2]

Iftar Ramadan 1446

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 ผศ. มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน พร้อมด้วยทีมงานมูลนิธิ ฯ ได้มอบความช่วยเหลือเพื่อโครงการ Iftar Ramadan 1446 ที่ GAZA ผ่านองค์กรที่ 2 ที่ร่วมจัดโครงการ Iftar Ramadan 1446 คือมูลนิธิ Ghirass ซึ่งได้จัดโครงการนี้ที่เบตฮานูน ทางภาคเหนือกาซ่า ใกล้กับค่ายทหารผู้บุกรุกเพียง 2-3 กม. เท่านั้น โครงการได้จัดขึ้นในวันพฤหัสที่ 13 รอมฎอน 1446 ก่อนพื้นที่แห่งนี้โดนถล่มอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ครอบครัวอาสาสมัครของมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันทั้ง 2 ท่านที่ปรากฏในคลิปโดนระเบิดเสียชีวิตหลายคน الله المستعان

มูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน ขอประกาศปิดรับบริจาคเพื่อโครงการ Iftar Ramadan ปีนี้ ส่วนโครงการ #สร้างโรงเรียนฟาฏอนีแห่งกาซ่า จะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

إن شاء الله

พี่น้องสามารถส่งมอบความข่วยเหลือแก่พี่น้องกาซ่าได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านโอนเข้าบัญชี

ธนาคารอิสลาม

054-1-25763-3

กองทุนเรือนร่างเดียวกันเพื่อมนุษยธรรม

ธนาคารกสิกรไทย

172-3-89822-2

มูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน


ทีมข่าวต่างประเทศ

#4UGAZA 9th [1]

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ผศ. มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน พร้อมด้วยกรรมการบริหารมูลนิธิ ฯ ได้มอบความช่วยเหลือเพื่อโครงการ Iftar Ramadan 1446 ที่ GAZA ผ่านมูลนิธิอัลกุดส์- มาเลเซียโดยมีดร. ชารีฟ อบูชะมาละฮ์ ประธานมูลนิธิฯ เป็นผู้รับมอบจำนวน 350,000 บาท

ประธานมูลนิธิอัลกุดส์ – มาเลเซีย ได้รายงานว่าทีมงานมูลนิธิฯ ในพื้นที่ได้จัดโครงการละศีลอดแก่พี่น้องกาซ่า ที่อยู่ในเขตซัยตูน บริเวณมัสยิดหะซัน อัลบันนา ระหว่างวันที่ 16,18 และ 20 มีนาคม 2568 โดยสามารถเลี้ยงอาหารละศีลอดให้แก่พี่น้องจำนวน 4,500 คน

#การบริจาคของพี่น้องได้เข้าถึงในพื้นที่เป้าหมายแล้ว

พี่น้องสามารถส่งมอบความข่วยเหลือแก่พี่น้องกาซ่าได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านโอนเข้าบัญชี

ธนาคารอิสลาม

054-1-25763-3

กองทุนเรือนร่างเดียวกันเพื่อมนุษยธรรม

ธนาคารกสิกรไทย

172-3-89822-2

มูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน

تقبل الله منا ومنكم صالح الأعمال

وجزاكم الله خيرا


ทีมข่าวต่างประเทศ

อธิการ มฟน. เข้าร่วมประชุมนานาชาติ ณ มหานครมักกะฮ์

สันนิบาตมุสลิมโลก (MWL) จัดการประชุมนานาชาติครั้งที่ 2 ภายใต้หัวข้อ

((بناء الجسور بين المذاهب الإسلامية))

“การสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสำนักคิดอิสลาม: สู่ความร่วมมือของชาวมุสลิมที่มีประสิทธิภาพ” ที่มหานครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 6 – 7 มีนาคม 2568 โดยมีนักวิชาการมุสลิมทั่วโลกกว่า 100 คน เข้าร่วม โดยในจำนวนนี้ รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกิยา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนีในฐานะสมาชิกก่อตั้งสันนิบาตมุสลิมโลก จากประเทศไทยได้รับเกียรติให้เข้าร่วมประชุมนานาชาติครั้งนี้ด้วย

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอุด ผู้ถวายบริการสองมัสยิดอันทรงเกียรติ  ที่มหานครมักกะฮ์มักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 6 – 7 มีนาคม 2568

1. เป้าหมายของการประชุม

 • ส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างมัซฮับสำนักคิดต่าง ๆ ในอิสลาม

 • ย้ำถึงบทบาทของนักวิชาการอิสลามในการเสริมสร้างเอกภาพ

 • ประสานจุดยืนเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายร่วมกัน

 • เน้นบทบาทของซาอุดีอาระเบียในการสร้างความสามัคคีของโลกมุสลิม

2. หัวข้อหลักของการประชุม

 • หลักการของ “ฟิกฮ์แห่งความแตกต่าง”: อธิบายหลักจริยธรรมและแนวทางการจัดการความเห็นต่างในอิสลาม

 • พื้นฐานของความเป็นเอกภาพอิสลาม: การสร้างจุดร่วมทางความเชื่อและกฎหมายศาสนา

 • แนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างมัซฮับและสำนักคิดต่าง ๆ : พัฒนาความร่วมมือในทางปฏิบัติ

 • ปัญหาของประชาชาติมุสลิม: เช่น ปัญหาปาเลสไตน์, ซีเรีย, ซูดาน และสถานการณ์ของชนกลุ่มน้อยมุสลิม

 • พัฒนาการของ “การเสวนาระหว่างมัซฮับอิสลาม”: ความคืบหน้าของโครงการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างมัซฮับและสำนักคิดต่าง ๆ

 3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

 • เปิดตัวแผนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมัซฮับ

 • ก่อตั้ง “คณะกรรมการประสานงานระหว่างมัซฮับอิสลาม”

 • จัดทำสารานุกรม “แนวคิดร่วมของอิสลาม” เพื่อแสดงจุดร่วมของทุกมัซฮับ

 • มอบรางวัลสำหรับผู้ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมเอกภาพของมุสลิม

ขอบคุณเนื้อหาข่าว และ รูปภาพ : FB : Muhammad Ibnu Abdullah Assomadee 


ทีมข่าว theustaz.com