อิสลามบูรณาการ

บางคนระวังตัวว่าจะบังเอิญกลืนกินน้ำลงไปในลำคอหยดสองหยด กลัวจะทำให้เสียศีลอด 

แต่กลับไม่กลัวการกลืนกินสิทธิประโยชน์ของผู้อื่น  ที่จะทำให้โลกหน้าของตนเองเสียหาย”

ชัยค์มุฮัมมัด ฆอซาลี


แปลโดย Ghazali Benmad

ปรัชญามะพร้าว

1.มะพร้าว ตกจากที่สูง ไม่เเตก เพราะมีเปลือกหนาห่อหุ้มไว้ ดุจคนดีมีศีลธรรม เเม้คราวตกต่ำก็ไม่ทิ้งความดี มีเกราะหนาคอยคุ้มครองนั่นคือความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์

   

2. มะพร้าวมีน้ำได้ด้วยตนเอง ไม่มีใครตักน้ำใส่ ดุจคนผู้ใฝ่ดี แสวงหาความดี ทำดีได้ด้วยตนเอง เเต่ก็น้อมรับคำชี้เเนะของคนอื่นเสมอ

   

3. มะพร้าวตกน้ำไม่จมน้ำ ลอยน้ำได้ ดุจคนดีเเม้พลาดพลั้งในชีวิต ก็สามารถประคองชีวิตได้ ไม่จมอยู่กับความผิดพลาด นำพาตัวเองจากวิกฤตสู่โอกาสเสมอ

  

4.มะพร้าว จมดินโคลนที่สกปรกสามารถเติบโตงอกเงยได้ ดั่งคนดีเเม้เกิดในตระกูลต่ำ ยากลำบาก ก็ยังสามารถเติบโตก้าวหน้าเป็นคนดีในสังคม ยกฐานะทางสังคมของตนได้

         

5.      ทุกส่วนของต้นมะพร้าว ล้วนมีประโยชน์ ทั้งลำต้น ผล ใบ ก้าน กาบ ทาง น้ำ กะทิ เนื้อแม้กระทั่งกากมะพร้าว ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้มนุษย์เรืองปัญญาให้ยึดปรัชญามะพร้าวในการดำเนินชีวิตให้เป็นคนที่สร้างประโยชน์แก่สังคมในทุกภาคส่วนทั้งความรู้ ประสบการณ์ ทรัพย์สิน ลาภยศ ชื่อเสียง และมิตรสหายเป็นต้น


โดย Mazlan Muhammad

ความรู้ที่ถูกยกไป

มูฮัมมัด อาลี อัศศอบูนีย์

อุละมาอฺผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค เกิดเมื่อ 1 มกราคม 1930 ที่เมืองหะลับ ซีเรีย เสียชีวิตแล้ว เมื่อ 19 มีนาคม 2021 ขณะอายุ 91 ปี ถือเป็นการสูญเสียผู้รู้ที่สำคัญในโลกอิสลามโดยเฉพาะด้านตัฟซีร อัลกุรอาน เจ้าของผลงาน مختصر تفسير ابن كثير،  صفوة التفاسير ، تفسير آيات الأحكام และอื่นๆ อีกกว่า 50 เล่ม

เคยได้รับการยกย่องเป็นบุคคลแห่งปีโลกอิสลาม ปี 2007 จาก “รางวัลนานาชาติดูไบเพื่ออัลกุรอาน”

เคยสอนที่คณะชะรีอะฮฺและอิสลามศึกษาที่นครญิดดะห์ร่วม 30 ปี ได้รับการแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยกษัตริย์ อับดุลอะซีซ เมืองญิดดะห์ เป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยที่ศูนย์วิจัยและฟื้นฟูวัฒนธรรมอิสลาม เป็นที่ปรึกษาสันนิบาตโลกมุสลิมโลก เป็นผู้สอนและให้คำวินิจฉัยรายวันที่มัสยิดหะรอม เคยได้รับเชิญเป็นอิมามนำละหมาดตะรอเวี้ยะห์และละหมาดศุบฮิที่มัสยิดหะรอม

ชัยค์อัศศอบูนีย์ได้วิจารณ์นายบัชชาร์ อะสัด ประธานาธิบดีซีเรียว่าเป็น มุสัยลิมะฮ์ อัลกัซซาบ และตักเตือนชัยค์มูฮัมมัด รอมฎอน อัลบูฏีย์ ด้วยคำตักเตือนที่รุนแรงเพราะชัยค์อัลบูฏีย์สนับสนุนนายบัชชาร์ อะสัดและไม่เห็นด้วยกับการลุกขึ้นต่อต้านระบอบบัชชาร์ของประชาชนชาวซีเรีย

ด้วยจุดยืนอันดุดันและมั่นคงที่สนับสนุนและเคียงข้างการประท้วงของชาวซีเรีย ทำให้สื่ออาหรับและชาวซีเรียตั้งฉายาท่านว่า “الشيخ الثائر” หรือผู้เฒ่านักปฏิวัติ

غفر الله له ورحمه رحمة واسعة وأدخله فسيح جناته ورزق لأهله وذويه الصبر والسلوان


โดย Mazlan Muhammad

10 ผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ จอมทัพมุสลิมเชิงยุทธศาสตร์

คลิปดีๆ  สุดยอด  10 ผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ จอมทัพมุสลิมเชิงยุทธศาสตร์

1. อบูยะฟัร อัลมันซูร ผู้สร้างอาณาจักรอับบาซียะฮ์ตัวจริง

2. อับดุลเราะห์มาน อัดดาคิล  ผู้พิชิตไอบีเรียและสถาปนาอาณาจักรอิสลามในสเปนกว่า 780 ปี

3. อัลป์ อัรสะลาน เติร์กเซลจู๊กผู้เปิดประตูดินแดนอานาโตเลีย ผู้กรุยทางสู่อาณาจักรเติร์กออตโตมัน

4. นูรุดดีน ซังกี  ผู้พิชิตก๊กอาหรับเผ่าต่างๆ จนเป็นหนึ่งเดียว ทั้งอียิปต์และแคว้นชาม  เพื่อการกอบกู้มัสยิดอักซอ

5. ซอลาหุดดีน  อัยยูบีย์ แม่ทัพของนูรุดดีน ซังกี ผู้พิชิตครูเสดและกอบกู้มัสยิดอักซอ

6. ซัยฟุดดีน  กุตุซ  ผู้หยุดมองโกลในโลกมุสลิม ในสมรภูมิอัยน์จาลูต  อียิปต์

7. ยูซุฟ บินตัชฟีน  ผู้ปกครองดินแดนแอลจีเรีย โมรอคโค  ผู้ปราบครูเสดและปกครองแอนดาลุสเซีย  กว่า 400 ปี ไปจนวันกรานาดาล่มสลาย

8. มุฮัมมัด  ฟาติห์ แห่งออตโตมัน ผู้พิชิตคอนสแตนติโนเปิล

9. สะลีม ที่ 1 แห่งออตโตมัน ผู้พิชิตดินแดนต่างๆ จนออตโตมันมีดินแดนกว้างใหญ่สูงสุด ผู้พิชิตซาฟาวิด และปกครองอียิปต์  ชาม และหิจาซ

10. สุลัยมาน  กอนูนีย์ ผู้วางรากฐานทางกฎหมายของออตโตมัน และปกป้องโลกอาหรับจากการตกเป็นเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคม

#ศัตรูไม่เคยลืมพวกเขาแต่มุสลิมเรากลับลืมเลือน

#ชนใดไร้ประวัติศาสตร์ชนนั้นย่อมไร้อนาคต


โดย Ghazali Benmad

มัลคอล์ม เอกซ์ ชะฮีดผู้มอบชีวิตให้ศาสนา

มัลคอล์ม  เอกซ์  จากเด็กจรจัดสู่นักคิดระดับโลกด้วยการอ่าน ผู้ชักชวนมุฮัมมัดอาลีเข้ารับอิสลาม  ตลอดจนนำคนนับแสนเข้ารับอิสลาม และเสียชีวิตจากการถูกยิงขณะยืนปราศรัยเผยแพร่อิสลาม

นักเผยแพร่อิสลามและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน  นักต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและความเสมอภาคชาวแอฟริกัน-อเมริกัน เข้าร่วมกับกลุ่ม Nation of Islam ในขณะเป็นนักโทษ

● การเกิดและการเลี้ยงดู

มัลคอล์ม  เอกซ์ เดิมชื่อ  มัลคอล์ม  ลิตเติ้ล เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 1925 พ่อชื่อ อิรัล ลิตเติ้ล  เป็นบาทหลวงในนิกายแบบติสม์ และเป็นผู้เรียกร้องสิทธิของคนผิวดำ มีพี่น้อง  11  คน โดย 4 คนถูกฆ่าในช่วงกลุ่มคลูกลักแคลน -kkk-อาละวาดหนัก บ้านถูกเผาราบเรียบ

ครอบครัวของเขาต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยมากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันและการคุกคามของกลุ่มคลูคลักแคลน

ต่อมาครอบครัวย้ายในยังแลนซิง รัฐมิชิแกน มัลคอล์ม  เอกซ์  อายุได้ 6 ปี ในปี  1931 พ่อของเขาถูกฆาตกรรมโดยถูกกลุ่มกลูคลักแคลน kkk ทำร้ายจนตายและจับไปให้รถไฟฟ้าเหยียบทับ แต่รัฐบาลประกาศผลการชันสูตรศพระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

หลังจากนั้นแม่ของเขาซึ่งมีอายุ  34  ปี พร้อมลูก 7 คน ต้องทำงานทุกอย่างเลี้ยงลูก จนต้องเข้าสถานบริการสุขภาพจิต ในปี 1936 เนื่องจากเธอทุกข์ทรมานจากการสูญเสียสามีและความเครียดในการหางานทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเด็กๆ  หลังจากนั้นๆ ลูกๆของนางก็กระจัดกระจายไปยังศูนย์เลี้ยงเด็กในที่ต่างๆ 

ขณะอยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก มัลคอล์ม  เอกซ์   ใฝ่ฝันที่จะเรียนกฎหมาย แต่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้น

การไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริงทางสังคมที่เขามองว่าเหยียดผิวและไม่ยุติธรรม  เขาจึงย้ายไปบอสตัน แมสซาชูเซตส์ ทำงานทุกอย่างที่คนผิวดำทำได้ ตั้งแต่ล้างจาน เช็ดรองเท้า  เฝ้ายาม ขายแซนด์วิช และจมดิ่งสู่วงการการพนัน และยาเสพติด  จากนั้นก็ถูกคุมขังในสถานพินิจใน 1946  ในข้อหาลักทรัพย์และปล้น

เรือนจำเป็นสถานีชีวิตที่โดดเด่นในชีวิตของเขา  เขาเริ่มต้นศึกษามัธยมปลาย และศึกษาด้วยตนเองโดยใช้ประโยชน์จากห้องสมุดเรือนจำ และการสนทนาด้านความเชื่อ

ในปี 1948 พี่น้องของเขาจากข้างนอก บอกข่าวว่า พวกเขานับถือศาสนาใหม่ เป็นศาสนาของคนผิวดำ ที่จะปลดปล่อยคนดำออกจากคนขาว เรียกว่า ศาสนาอิสลาม ที่นำโดยกลุ่ม “Nation of Islam” มีศาสดาชื่อ มุฮัมมัด ฟาร๊อจ  โดยมีผู้สืบทอดชื่ออาเลจาห์ มุฮัมมัด มีพระเจ้า 2 องค์ คือพระเจ้าความดี ซึ่งมีผิวดำ และพระเจ้าความชั่ว ซึ่งมีผิวขาว  ละหมาดวันละ 2 เวลา ถือศีลอดปีละ 1 วัน คือในวันคริสต์มาส  ซะกาตจ่ายให้กับศาสดาอาเลจาห์ มุฮัมมัด  ฮัจญ์สำหรับผู้ไร้ความสามารถ ให้ไปเยี่ยมบ้านอาเลจาห์ มุฮัมมัด

เขาเริ่มคุ้นเคยกับงานเขียนขององค์กร “Nation of Islam ประชาชาติอิสลาม” เขาสนใจคำสอนของเอลียาห์ มูฮัมหมัดและงานเขียนของเขาในการวิพากษ์วิจารณ์ความเป็นชายขอบของชุมชนคนผิวดำและการไม่ให้อำนาจแก่พวกเขา  ทั้งในด้านการเมืองสังคมและเศรษฐกิจ

จากการเปลี่ยนศาสนา การชอบโต้แย้ง วิพากษ์ และไม่มีงานอื่น  ทำให้มัลคอล์ม เอกซ์  อุทิศตนให้กับการอ่านหนังสือศาสนา ปรัชญาตะวันตกและตะวันออก วรรณกรรม  กฎหมายและประวัติศาสตร์อย่างบ้าคลั่ง วันละ   15  ชม.  ตลอดจนการโต้เถียงและวิพากษ์สังคมร่วมกับเพื่อนๆในคุก

ด้วยทุนทางความรู้เหล่านั้น ทำให้มัลคอล์ม เอกซ์   กลายเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาใหม่ในคุก จนมีผู้ตามมากมาย 

มัลคอล์ม เอกซ์  สอนนักโทษให้เคร่งครัดในคำสอนศาสนา  และละทิ้งนิสัยไม่ดีทั้งหลาย

จากพฤติกรรมที่ดีเยี่ยมในคุก มัลคอล์ม เอกซ์ ได้รับการปล่อยตัวจากคุกก่อนกำหนดในปี 1952 และกลายเป็น “สมาชิกผู้อุทิศตน” ขององค์กร “Nation of Islam ประชาชาติอิสลาม”

เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกอย่างเป็นทางการขององค์กรและดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการในเขตบอสตัน ฟิลาเดลเฟียและนิวยอร์กเขาก่อตั้งมัสยิดใหม่สำหรับองค์กรในดีทรอยต์และนิวยอร์ก  และในปี 1957 ได้เปิดตัวหนังสือพิมพ์ชื่อ “Elijah Muhammad Talks “ เป็นกระบอกเสียงขององค์กร

ด้วยความสามารถพิเศษ ความกระตือรือร้นและความสามารถในการมีอิทธิพลของเขา  เขาสามารถดึงดูดชาวอเมริกันผิวดำหลายพันคนให้เป็นสมาชิกกลุ่ม สมาชิกของพวกเขาจึงทวีคูณหลายสิบเท่า และมีจำนวนถึงสามหมื่นในปี 1957 หลังจากที่พวกเขาประมาณ 500 คน ในปี  1930

ผลจากการอ่านอย่างบ้าคลั่งในคุก ขณะนี้เขาประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้สนับสนุน และนำเสนอแนวคิดที่โดดเด่น เขาจึงได้ออกรายการในสื่อที่มีชื่อเสียงที่สุด  และเข้าร่วมในการสัมมนาและการอภิปรายในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกาและได้รับการจัดอันดับโดย  นสพ.  New York Times ให้เป็นนักเผยแผ่ศาสนาที่มีอิทธิพลอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา

ชื่อเสียงของเขาแซงหน้าชื่อเสียงของที่ปรึกษาและที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณของเขา  เอลีจาห์  มูฮัมหมัด  ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาเริ่มต้นขึ้น เมื่อมัลคอล์ม เอกซ์ ถูกห้ามพูดในนามของ “ประชาชาติอิสลาม” เป็นเวลา  90 วัน เมื่อเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลอบสังหารของ ประธานาธิบดีจอห์นเอฟ. เคนเนดี ว่า เป็นเพราะทำตัวเอง

ในเดือนกุมภาพันธ์ 1964 เขาชักชวนให้ แคสเซียส เคลย์ แชมป์มวยโลก ประกาศเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม  และเปลี่ยนชื่อเป็น มูฮัมหมัดอาลี และเข้าร่วมกลุ่มของเขา

ในปี  1964 มัลคอล์ม เอ็กซ์  ไปประกอบพิธีฮัจญ์ เพื่อไปขอบริจาคให้กับกลุ่ม และกลับมาพร้อมกับแนวทางใหม่ในการดำเนินการต่อสู้ในขบวนการสิทธิพลเมือง โดยมีวิสัยทัศน์ทางศาสนาอิสลามที่แตกต่างไปจากแนวทางก่อนหน้าของเขา

ผลกระทบจากการไปเห็นชาวมุสลิมที่อยู่เคียงข้างกันการละหมาดในแถวที่ชิดกัน  การรับประทานอาหารจากจานเดียวกัน และการพูดในการชุมนุมที่เป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีความแตกต่างระหว่างสีผิวและเชื้อชาติ  ทำให้มัลคอล์ม เอ็กซ์ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

มัลคอล์ม เอ็กซ์ กล่าวว่า  อเมริกาต้องเรียนรู้อิสลาม  เพราะอิสลามเป็นศาสนาเดียวที่แก้ปัญหาเหยียดผิวได้

เขาเลิกการเหยียดผิวขาว และประกาศเข้ารับอิสลามใหม่ พร้อมเดินทางไปอียิปต์เพื่อศึกษาศาสนาอิสลามกับชัยค์หะสะนัยน์  มัคลู๊ฟ  มุฟตีย์อียิปต์ขณะนั้น รวมถึงอุลามาอ์อื่นๆของอัซฮัร

เขาเพิ่มชื่อแรกของเขาว่า “ฮัจยีมาลิก  ชาบาซ”

กลับจากฮัจญ์  มัลคอล์ม เอ็กซ์ ได้พูดชักชวนเอเลจาห์  มุฮัมมัด ให้แก้ไขกฎเกณฑ์แนวปฏิบัติของกลุ่ม

และชักชวนให้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ เพื่อจะได้เห็นศาสนาอิสลามที่แท้จริง แต่เอเลจาห์  มุฮัมมัด ปฏิเสธ

มัลคอล์ม เอ็กซ์  จึงออกมาตั้งกลุ่มใหม่ เป็นกลุ่มอิสลามอะลิซซุนนะฮ์ ไม่ต่อต้านคนผิวขาว และเข้าไปมีส่วนร่วมในการสมัครเลือกตั้งในระดับต่างๆ  ได้ออกปราศรัยทางการเมืองและเรียกร้องสิทธิของคนผิวดำ

เสียงเรียกร้องของเขาก็เริ่มดังขึ้นจากวงล้อมของชาวอเมริกันผิวดำ กระจายออกไปยังเผ่าพันธุ์และส่วนประกอบต่างๆของสังคมอเมริกัน

มัลคอล์ม เอ็กซ์ สนับสนุนและต่อสู้เพื่อจัดตั้ง “องค์กรเอกภาพแห่งแอฟริกันอเมริกัน” ในความพยายามที่จะเชื่อมโยงการต่อสู้ของคนอเมริกันผิวดำกับการต่อสู้ของชาติในแอฟริกาที่กำลังดิ้นรนเพื่อการปลดปล่อยแห่งชาติ

ในช่วงสองปีสุดท้ายของชีวิตเขาทุ่มเทให้กับการเขียนอัตชีวประวัติร่วมกับนักเขียน “อเล็กซ์เฮลีย์” ซึ่งตีพิมพ์ไม่นานหลังจากการฆาตกรรมของเขาภายใต้ชื่อ “อัตชีวประวัติของมัลคอล์ม”

● การเสียชีวิต

มัลคอล์ม เอ็กซ์  ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1965 โดยมือปืนสามคนจาก Nation of Islam ที่กระหน่ำยิงเขาในนิวยอร์ค ขณะที่กำลังปราศรัยเผยแผ่ศาสนาอิสลาม   และถูกฝังไว้ใน Ferncliffe Cemetery ใน Hartsdale, New York

● หลังการเสียชีวิต

ต่อมา วารีษุดดีน  บุตรชายของเอเลจาห์  มุฮัมมัด  ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่ม Nation of Islam หลังการเสียชีวิตของบิดา  วารีษุดดีน  เลื่อมไสในแนวคิดของ มัลคอล์ม เอ็กซ์ ได้นำสมาชิกกลุ่มทั้งหมดที่มีราวๆ 2 แสนคน เข้ารับอิสลามที่ถูกต้องและยกเลิกกลุ่ม Nation of Islam

จึงกล่าวได้ว่า เด็กจรจัดอย่างมัลคอล์ม เอ็กซ์  เป็นผู้นำคนนับแสนเข้ารับอิสลามด้วยประการฉะนี้

ขอให้อัลลอฮ์ตอบแทนความดีงามของท่าน


โดย Ghazali Benmad

ทักษะการใช้ความนิ่งในอิสลาม

หากการนิ่งเงียบหรือไม่ตอบโต้ ถือเป็นการพ่ายแพ้หรือจนตรอก การดะวะฮฺของนบีก็คงพ่ายแพ้หรือประสบภาวะจนตรอก نعوذ بالله من ذلك   เพราะอัลกุรอานสอนเราหันหลังให้กับคนโง่เขลา และหะดีษสอนเราให้พูดแต่ความดี หรือไม่ก็นิ่งเสีย ดังนั้นหลักสำคัญอย่างหนึ่งในการทำงานอิสลามคือนิ่งกับบททดสอบหรือเรื่องที่ไร้สาระ แต่ต้องเคลื่อนไหวทำงานดะอฺวะฮฺอย่างต่อเนื่อง อย่าแสดงกริยาก้าวร้าว ใช้วาจาสามหาว

เพราะปัจจุบัน เราอยู่ในยุคที่หากมนุษย์พูดกับก้อนหินว่า : จงเป็นมนุษย์เถอะ

ก้อนหินคงตอบว่า : ขอโทษ ฉันยังไม่แข็ง(กร้าว)พอเท่าคุณ


โดย Mazlan Muhammad

เป้าหมายของนาศีฮัต

นะศีฮัต มาจากรากศัพท์ในภาษาอาหรับว่า نصح ซึ่งมีความหมายว่าความบริสุทธิ์ ความใสสะอาด ไร้สิ่งเจือปนใดๆ เหมือนคนที่กรองน้ำผึ้งให้ใสสะอาดอย่างหมดจดพร้อมทานได้ไร้กังวล

ดังนั้น นะศีฮัต จึงต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือความบริสุทธิ์ทั้งเป้าหมายและวิธีการ ใสสะอาดทั้งกาย ใจ วาจาและกริยาท่าทาง ผู้ที่ให้นะศีฮัตจะต้องรำลึกอยู่เสมอว่า เขาเพียงทำหน้าที่นำเสนอสิ่งดีๆเท่านั้น ส่วนผลจะเป็นประการใด ก็เป็นการตัดสินของอัลลอฮ์ ผู้ให้นะศีฮัตจึงไม่มีวันที่จะรู้สึกเครียดหรือว้าวุ่นใจ จะไม่คล้อยตามอารมณ์อันแปรปรวนของผู้ถูกนะศีฮัตและคนรอบข้าง เพราะเขารู้ดีว่า เขาไม่มีอำนาจใดๆที่จะไปบีบบังคับให้ผู้คนทำตามคำพูดของเขา นอกจากด้วยเตาฟิกจากพระองค์เท่านั้น ดังที่พระองค์กล่าวว่า

لَّسْتَ عَلَيْهِم بِمُصَيْطِرٍ (الغاشية/٢٢)

“เจ้าไม่ได้มีหน้าที่บังคับพวกเขา(ให้ทำตามและเชื่อศรัทธาตามคำสอนของเจ้า)”

نَّحْنُ أَعْلَمُ بِمَا يَقُولُونَ ۖ وَمَا أَنتَ عَلَيْهِم بِجَبَّارٍ ۖ فَذَكِّرْ بِالْقُرْآنِ مَن يَخَافُ وَعِيدِ (ق /٤٥)

“เรารู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกเขากล่าว และเจ้ามิได้เป็นผู้มีอำนาจเหนือพวกเขา ดังนั้นเจ้าจงตักเตือนด้วยอัลกุรอ่านนี้แก่ผู้กลัวต่อสัญญาร้ายของข้า”

หากองค์ประกอบที่สำคัญนี้มีความบกพร่องหรือมีสิ่งอื่นเจือปน มันจะแปรเปลี่ยนจากนะศีฮัตเป็นการโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง ต้องการเอาชนะคะคานไม่จบสิ้น แถมด้วยการด่าทอ เสียดสี การดูถูก จาบจ้วง ตั้งฉายาที่มีเจตนาดูหมิ่นดูแคลน

ผู้ให้คำนะศีฮัต มักจะอ้างว่าทำเพื่ออัลลอฮ์และรอซูล แต่เขาพึงสังวรณ์ว่า อัลลอฮ์ ไม่ได้สั่งใช้ในสิ่งที่เป็นความยุติธรรมและเอี้ยะห์ซาน(ทำดี)เท่านั้น แต่พระองค์ยังห้ามปรามสิ่งลามกและมุนกัร(ความชั่วร้าย)อีกด้วย

ในขณะที่นบีมูฮัมมัด صلى الله عليه وسلم ได้กล่าวว่า

إنِّي لَمْ أُبْعَثْ لَعَّانًا، وإنَّما بُعِثْتُ رَحْمَةً (صحيح مسلم/٢٥٩٩)

“แท้จริงฉันไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อสาปแช่งทว่าเพื่อประทานความปรานี”

إِنَّ اللَّعَّانِين لا يَكُونُونَ شُفَعَاءَ وَلا شُهَداءَ يَوْمَ القِيَامةِ ( صحيح مسلم/٢٥٩٨)

แท้จริงผู้ด่าทอไม่สามารถเป็นผู้ประกันตนให้ผู้อื่นและไม่สามารถเป็นสักขีพยานในวันกิยามะฮ์

سِبَابُ المُسْلِمِ فُسُوقٌ، وقِتَالُهُ كُفْرٌ ( صحيح البخاري/٤٨ ومسلم/٦٤)

การด่าทอมุสลิมด้วยกันถือเป็นการทำบาป (ฟาสิก)และการสังหารมุสลิมเป็นการกระทำของผู้ปฏิเสธ(กุฟุร์)

ผู้นาศีฮัตทุกท่าน ลองเอาวิธีการ แนวทาง คำพูดคำจา การโต้ตอบและการถกเถียงของเขา แล้วนำไปเทียบเคียงกับคำสอนของอัลลอฮ์ว่า นาศีฮัตของเขาเป็นที่พอใจของอัลลอฮ์มากน้อยแค่ไหน

หรือให้เขาลองจินตนาการดูว่า หากนบี صلى الله عليه وسلم ได้ยิน ได้อ่านเนื้อหาคำนาศีฮัตของเขา ถามว่านบีจะภูมิใจและดีใจหรือไม่

หากบรรดาเศาะฮาบะฮ์ ชาวสะลัฟศอลิห์และบรรดาอิมามมัซฮับต่างๆได้ยินการแลกเปลี่ยนและการสนทนาของผู้ให้นะศีฮัต พวกเขาจะยกนิ้วโป้งพร้อมกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่แหละใช่เลย บ้างหรือเปล่า

หรือแม้กระทั่งบรรดาผู้รู้ในปัจจุบัน มีใครบ้างที่เห็นดีเห็นงามกับวิธีการของผู้นะศีฮัต ถามว่าผู้นะศีฮัตเคยไปขอคำแนะนำวิธีนะศีฮัตจากผู้รู้จริงมากน้อยแค่ไหน และได้รับคำแนะนำอย่างไรบ้าง

หาไม่แล้ว ผู้ให้นะศีฮัตนั่นแหละ คือบุคคลที่จะต้องรับนะศีฮัตแทน

#หาใช่ใครอื่น

أُبَلِّغُكُمْ رِسَالَاتِ رَبِّي وَأَنَا لَكُمْ نَاصِحٌ أَمِينٌ ( الأعراف / 68)


โดย Mazlan Muhammad

โพสต์จากใจชาวอาหรับแฟนพันธุ์แท้ซีรีส์ “แอร์ตุฆรุล”

โลกออนไลน์กระหน่ำแชร์ข้อความโพสต์จากใจชาวอาหรับแฟนพันธุ์แท้ซีรีส์ “แอร์ตุฆรุล”  เป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมให้แก่คนที่ตั้งใจทำงาน ทั้งทีมผู้สร้างและนักแสดง

ข้อความที่แชร์ กล่าวว่า :

เพื่อนของฉัน ถามฉัน ทำไมถึงชอบซีรีส์แอร์ตุฆรุลอย่างบ้าคลั่ง ทำไมถึงภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาวเติร์กราวกับว่าพวกเขาเป็นชาวอาหรับ? ไม่ใช่ประเทศของคุณและวีรบุรุษของคุณหรือที่คู่ควรกับความรักและการเชิดชูนี้ … ?? !!

ฉันจึงบอกเขาว่า :

“ฉันจะตอบคุณโดยมีเงื่อนไขที่ว่า คุณต้องวางใจเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใครๆ ยำเกรงต่อพระเจ้าและไม่กลัวใครๆ เกี่ยวกับหลักการของพระองค์ ! !!

เขากล่าวว่า : “ได้”

ฉันบอกเขาว่า :

“ใช่ ฉันเป็นคนอาหรับ แต่ฉันรักศาสนาของฉันมากกว่าความเป็นอาหรับ ความภักดีแรกและสุดท้ายของฉัน มีเพียงต่อศาสนา ..

ฉันรักและสนับสนุนคนที่ส่งเสริมศาสนาแม้ว่าเขาจะเป็นชาวต่างชาติ  และฉันก็เกลียดและเป็นปฏิปักษ์กับคนที่ทำร้ายศาสนา แม้ว่าพี่ชายของฉัน  จะเป็นลูกของแม่ของฉัน  ไม่ใช่แค่คนอาหรับเท่านั้น !

เราชอบซีรี่ส์นี้ เพราะได้บอกความจริงที่ถูกไอ้งั่งบิดเบือน

นั่นคือ เรื่องราวของชาวตุรกีที่ปกป้องศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมด้วยชีวิตของพวกเขา ด้วยเลือดเนื้อของพวกเขา  และชูธงของญิฮาดและความรู้ในสี่ทิศของโลก  พวกเขาเสียสละลูก ๆ ภรรยา ตัวเองและสิ่งมีค่าทั้งหมด

พวกเขาถูกอธรรม แต่มีความอดทนและอดทน

พวกเขามุ่งมั่นต่อสู้ จนอัลลอฮ์ประทานชัยชนะแก่พวกเขา

พวกเขาได้ก่อตั้งระบอบคอลีฟะฮ์ที่ปกครองดินแดนกว่าสองในสามของโลกด้วยความยุติธรรมและความเมตตา

พวกเขาตัดหัวอสรพิษร้ายและทำลายอาณาจักรที่มันสร้างขึ้นบนกะโหลกของทารกมุสลิม ล้างแค้นให้ผู้หญิงที่ถูกหยามเกียรติ และคืนสิทธิให้กับเจ้าของแม้จะไม่ใช่มุสลิมก็ตาม

ข้อเท็จจริงที่ถูกเปลี่ยนแปลงและบิดเบือนในหนังสือประวัติศาสตร์ เราอ่านหนังสือของเราตอนที่เรายังเด็ก มีคำถามในข้อสอบว่า (จงบอกถึงข้อเสียของการยึดครองของชาวเติร์กในประเทศของเธอ และผลดีของการยึดครองของฝรั่งเศส !!)

การพิชิตของออตโตมันจึงกลายเป็นการยึดครอง และการยึดครองอันเหี้ยมโหดของฝรั่งเศสเป็นข้อดี.

ไม่มีใครถูกอธรรมในประวัติศาสตร์เท่ากับวีรบุรุษของตุรกีถูกอธรรม ..

พวกเขาถูกอธรรมจากคนนอกรีตและการผิดศีลธรรม แต่ความอยุติธรรมที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับพวกเขาคือความอยุติธรรมของพี่น้องในศาสนา …

และน่าเสียใจยิ่งที่ความอยุติธรรมนี้ยังคงดำเนินอยู่จนปัจจุบัน

สุดท้ายนี้ เพื่อนพึงทราบเถิดว่า  กฎของพระเจ้าไม่ได้เข้าข้างใคร ผู้ใดพยายามผู้นั้นย่อมประสบความสำเร็จ

พวกเขาพยายามและสร้างผลงานทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้คนนับพันเข้าสู่ศาสนาของพระเจ้า หลังจากมีการรับชมเกินกว่าสี่พันล้านคน นั่นคือประมาณสองในสามของโลก

เชื่อหรือไม่ ซีรีส์นี้ในหลาย ๆ ฉาก  ยกย่องวีรบุรุษในประเทศของฉัน รวมถึงผู้คนและนักวิชาการในประเทศของฉัน ไม่ต้องพูดถึงการเชิดชูอันยิ่งใหญ่ต่อท่านนบี ศอลฯ  ตลอดจนภรรยาที่บริสุทธิ์ของท่านและซอฮาบะฮ์ที่มีเกียรติของท่าน 》》


โดย Ghazali Benmad

เรื่องเล่าชายแดนใต้ [ 3 ]

ตอน มาเยี่ยมมาเยือน

เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 เวลา 10.00 น.

คณะผู้ดูแลกองทุนเพื่อการศึกษานายซูเฟียน อาแว นำโดยนายอาฟิฟ วามุ พร้อมด้วยผศ. มัสลัน มาหะมะและทีมงาน ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านเลขที่ 12/2 ม. 5 ต. กระเสาะ อ. มายอ จ. ปัตตานี  ซึ่งเป็นบ้านปู่ย่าของนายซูเฟียน อาแว หลังจากชาวมือบนร่วมระดมบริจาคให้นายซูเฟียน อาแวเป็นเงินจำนวน 90,000 บาท (ข้อมูลวันที่ 5 มี.ค. 64) ผ่านการโพสต์เรื่องราวในเพจ Mazlan Muhammad และเว็บไซต์ theustaz.com

คุณปู่ของนายซูเฟียน ปัจจุบันอายุ 75 ปี เล่าว่า ตนมีลูกชาย 2 คน ลูกคนโตคือบิดาของนายซูเฟียน ประกอบอาชีพกรีดยางพาราที่สวนยางของตนที่ อ. สะเดา จ. สงขลา ช่วงเกิดเหตุ ลูกชายของตนกลับบ้านกระเสาะ เพื่อเยี่ยมภรรยาและลูกชายวัย 3 ขวบ(นายซูเฟียน) และลูกชายที่เพิ่งคลอด ส่วนตนและภรรยา(คุณย่า) กรีดยางที่สวนยางที่สะเดา โดยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เหตุร้ายจะเกิดขึ้นกับลูกชาย

คุณปู่เล่าต่อว่า เมื่อราวกลางปี 2548 ช่วงกลางคืน มีคนร้ายรอซุ่มในเงามืดหน้าบ้าน เมื่อลูกชายของตนเปิดประตูที่ระเบียงหน้าบ้าน เพื่อจะหยิบขนมให้ลูกชาย คนร้ายได้ยิงด้วยปืนลูกซองเข้ากลางอกของลูกชาย 1 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกน้อยทั้งสองและภรรยา เมื่อทราบข่าว ตนจึงกลับบ้าน หลังจากนั้น ตนและภรรยาไม่สามารถกรีดยางที่สะเดาอีกต่อไป เนื่องจากอดีตสะใภ้มีครอบครัวใหม่ ทำให้ตนต้องอุปการะเลี้ยงดูหลานกำพร้าทั้งสอง และมอบหมายให้ลูกชายอีกคนดูแลสวนยางแทน

คุณปู่เล่าว่า เวลาผ่านไป 16 ปี ไม่มีหน่วยงานทางราชการมาให้ความช่วยเหลือ และไม่เคยได้รับการเยียวยาใดๆ เนื่องจาก ช่วงนั้นสถานการณ์วุ่นวายมาก มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแทบทุกวัน ตนจึงตั้งใจจะอุปการะเลี้ยงดูหลานทั้งสองคนนี้ ให้เป็นคนดี มีการศึกษา แต่ตอนนี้ตนอายุมากแล้ว ไม่สามารถทำงานหนักได้เนื่องจากเป็นโรคประจำตัว เหลือแต่ยายที่เป็นเสาหลักให้ครอบครัว ทำงานหาเข้ากินค่ำ มีรายได้วันละ 150 บาท และต้องส่งเสียเป็นค่าเล่าเรียนให้หลานชายทั้งสองอาทิตย์ละ 400-600 บาท ตนจึงต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อเลี้ยงดูหลานต่อไป

คุณปู่พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า ตนขอบคุณอัลลอฮ์ ที่ตอบรับดุอาให้ความช่วยเหลือด้วยพลังกุศลเจตนาของชาวมือบนที่สนับสนุนกองทุนเพื่อการศึกษาให้หลานรักทั้งสอง ตนดีใจมากและขอพรให้หลานทั้งสองตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีเพื่ออนาคตที่ดีต่อไป

นายซูเฟียน อาแว กล่าวด้วยความดีใจว่า ขอชุโกร์ต่ออัลลอฮ์ ขอขอบคุณคุณปู่คุณย่า ผู้บริหาร ครู อุสต้าสและเพื่อนๆ ในโรงเรียนส่งเสริมศาสน์ ต. ตันหยงดาลอ อ. ยะหริ่ง จ. ปัตตานีที่ให้กำลังใจด้วยดีเสมอมา ตนขอสัญญาว่า จะใช้จ่ายกองทุนนี้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคทุกประการ ที่สำคัญขอขอบคุณเป็นอย่างสูงแก่เพจ Mazlan Muhammad และเว็บไซต์ theustaz.com ตลอดจนชาวมือบนทุกท่านที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการระดมทุนครั้งนี้

หลังจากนั้น คณะฯได้เดินทางไปยังเมืองปัตตานี เพื่อเปิดบัญชีใหม่ โดยในเบื้องต้นได้ถอนเงินจำนวน 90,000 บาท จากบัญชีธนาคารของนายซูเฟียน อาแว พร้อมฝากเข้าบัญชีใหม่ของธนาคารอิสลามในนาม นายซูเฟียน อาแว นายอาฟิฟ วามุ (ผู้แทนโรงเรียนส่งเสริมศาสน์)และนายมัสลัน มาหะมะ

หมายเลขบัญชี 0361193483 สาขาบิ๊กซี ปัตตานี

สำหรับผู้ที่จะร่วมสมทบทุนการศึกษานี้สามารถโอนเข้าบัญชีใหม่ตามระบุข้างต้น  โดยคณะผู้ดูแลจะคอยติดตามและดำเนินการใช้จ่ายเพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนี้ทุกประการ

وجزاكم الله خيرا


โดย Mazlan Muhammad

กลลวงแก๊งมิจฉาชน

1 ในยุทธวิธีแก๊งแชร์ลูกโซ่คือ เกาะกระแสผู้มีชื่อเสียงด้านต่างๆ เพื่อสร้างราคาให้แก๊งตัวเองมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น บางครั้งตั้งเป็นที่ปรึกษา บางครั้งเชิญมาเป็นประธานในพิธีเปิดตัว บางครั้งถ่ายรูปคู่เพื่อแสดงความสนิทสนม บางครั้งหลงกลถูกดึงเข้าลงทุนด้วยการรับส่วนแบ่งผลกำไรอย่างงาม

 และ 1 ในกลุ่มผู้มีชื่อเสียงที่มักถูกเทียบเชิญเพื่อฟอกตัวแก๊งนี้คือบรรดาอุสต้าซ โต๊ะครู โต๊ะอิมาม โต๊ะฮัจญี บาบอหรือมามาทั้งหลาย

จึงขอเตือนไปยังอุสต้าซ โต๊ะครู โต๊ะอิมาม บาบอหรือมามาทั้งหลายว่า หากมีคนมาชี้ชวนลงทุนหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจบาปนี้ ขอให้ท่านดูตาม้าตาเรือบ้าง รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของแก๊งหลอกลวงบนคราบน้ำตาของชาวบ้าน อย่าเป็นคนตื้นเขิน เบาปัญญา ไร้เดียงสา ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว รับทรัพย์โดยไม่รู้ที่มาที่ไปเข้าตำรา 5 D ( Duduk Diam-Diam Dapat Duit)

ในวันแห่งการไต่สวน ท่านจะตอบว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ผมแค่รับเงินอย่างเดียวเท่านั้น

แค่เหตุผลตื้นๆ แค่นี้ อัลลอฮ์จะให้อภัยหรือ


โดย Mazlan Muhammad