เส้นทางสองเส้น

ผิดแล้วเตาบัตที่มีองค์ประกอบทั้ง 3 ประการคือตัดใจ เสียใจและตั้งใจไม่หวนทำอีก อันนี้คือปกติวิสัยของศรัทธาชน แม้กระทั่งนบีอาดัม ก็เคยประสบกับตนเองมาแล้ว ท่านและภรรยา จึงกล่าวประโยคทองที่เป็นอุทาหรณ์แก่ลูกหลานกล่าวเป็นแบบอย่าง ซึ่งถูกจารึกในอัลกุรอาน ว่า

 قَالَا رَبّنَا ظَلَمْنَا أَنْفُسنَا وَإِنْ لَمْ تَغْفِر لَنَا وَتَرْحَمنَا لَنَكُونَنَّ مِنْ الْخَاسِرِينَ

-الأعراف/٢٣

ทั้งนบีอาดัมและนางฮาวา จึงกลับไปสู่สวรรค์อันสุขสถาพรนิรันดร์กาล

แต่หากกระทำผิดด้วยความดื้อดึง ขัดขืน ไม่เชื่อฟัง แถมภูมิใจกับการกระทำของตน ไม่สำนึกผิด กล่าวโทษคนอื่น แค้นเคือง ไฟสุมอก มองโลกในแง่ร้าย หมดหวังในความเมตตาของอัลลอฮ์ พร้อมเผยแพร่ความผิดของตนไปยังผู้อื่น อันนี้คือมรดกบาปของอิบลีสที่ถูกสาปแช่งและโดนขับไล่ไสส่งออกจากสวรรค์พร้อมๆกับความโกรธกริ้วของพระองค์มาแล้ว

อิบลีสและพลพรรค จึงถูกทรมานในนรกชั่วกัลป์

จะนำบทเรียนของนบีอาดัมและนางฮาวา

หรือจะสานต่อมรดกบาปของอิบลีสที่ถูกสาปแช่ง

#เลือกเอาเองครับ


โดย Mazlan Muhammad

บุคคล 3 ประเภทที่เข้านรกก่อนเพื่อน

เราควรให้ความสำคัญกับการทำงานของหัวใจมากกว่าอวัยวะภายนอก

การทำงานของหัวใจ ณ ที่นี้หมายถึงการรักษาความรู้สึกให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่ออัลลอฮฺเท่านั้น มีความบริสุทธิ์ใจ ไม่โอ้อวด หรือต้องการเสียงชื่นชมเยินยอ

การทำงานของคนๆหนึ่งที่ปราศจากความบริสุทธิ์ใจ นอกจากไม่มีคุณค่าใดๆ ณ อัลลอฮฺแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการทรมานในนรกอีกด้วย ถึงแม้เขาจะฝากผลงานที่ยิ่งใหญ่สักปานใดก็ตาม

พี่น้องลองศึกษาหะดีษนี้ดูครับ

(คณะบุคคลชุดแรกที่เข้านรก (นะอูซุบิลลิฮฺมินซาลิก

นักกอรีอ่านอัลกุรอาน –

 ผู้บริจาคทาน –

ผู้เสียชีวิตเนื่องจากต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ –

إن الله إذا كان يوم القيامة ينزل إلى العباد ليقضي بينهم , وكل أمة جاثية , فأول من يدعو به رجل جمع القرآن , ورجل قتل في سبيل الله , ورجل كثير المال,فيقول الله للقارىء : ألم أعلمك ما أنزلت على رسولي قال : بلى يا رب قال : فماذا عملت فيما علمت ؟ قال : كنت أقوم به آناء الليل وآناء النهار , فيقول الله له : كذبت , وتقول له الملائكة : كذبت , ويقول الله له : بل أردت أن يقال فلان قارىء , فقد قيل ذلك . ويؤتى بصاحب المال فيقول الله له : ألم أوسع عليك حتى لم أدعك تحتاج إلى أحد ؟ قال : بلى يا رب , قال : فماذا عملت فيما آتيتك ؟ قال : كنت أصل الرحم , وأتصدق , فيقول الله له : كذبت , وتقول الملائكة : كذبت , ويقول الله : بل أردت أن يقال : فلان جواد , فقد قيل ذلك , ويؤتى بالذي قتل في سبيل الله فيقول الله : فيماذا قتلت ؟ فيقول : أمرت بالجهاد في سبيلك فقاتلت حتى قتلت , فيقول الله له : كذبت , وتقول الملائكة : كذبت , ويقول الله : بل أردت أن يقال فلان جريء , فقد قيل ذلك . يا أبا هريرة أولئك الثلاثة أول خلق الله تسعر بهم النار يوم القيامة .

الراوي: أبو هريرة المحدث: الألباني  – المصدر: صحيح الجامع – الصفحة أو الرقم: 1713

خلاصة حكم المحدث: صحيح

เมื่อถึงวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺจะลงมายังมวลมนุษย์เพื่อตัดสินความ และกลุ่มชนทุกชาติอยู่ในสภาพคุกเข่า คนแรกที่ถูกเรียกคือ1) คนที่รวบรวมศึกษาอัลกุรอาน 2) คนที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ 3) คนที่มีทรัพย์สินมากมาย อัลลอฮฺกล่าวแก่คนอ่านอัลกุรอานว่า ข้าได้สอนเจ้าเกี่ยวกับอัลกุรอานที่ข้าได้ประทานแก่เราะซูลของข้าใช่ไหม ชายคนนั้นตอบว่าใช่ อัลลอฮฺถามต่อว่า แล้วเจ้าปฏิบัติตามที่เจ้าได้เรียนรู้อย่างไรบ้าง ชายคนนั้นตอบว่า ฉันอ่านอัลกุรอานในละหมาดทั้งกลางวันและกลางคืน อัลลอฮฺกล่าวว่า เจ้าโกหก มะลาอิกะฮฺก็กล่าวแก่ชายคนนั้นเช่นกันว่า เจ้าโกหก อัลลอฮฺกล่าวว่าความจริงแล้วเจ้าอยากให้คนอื่นชื่นชมเจ้าว่าเป็นบุคคลที่อ่านอัลกุรอานได้ไพเราะดี และเจ้าก็ถูกกล่าวแล้ว  จากนั้นชายที่มีทรัพย์สินมากมายก็ถูกเรียก อัลลอฮฺถามเขาว่า ข้าได้ทำให้เจ้าอยู่กินอย่างสบายและเจ้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใดทั้งสิ้นใช่หรือไม่ ชายคนนั้นตอบว่าใช่ อัลลอฮฺถามว่าแล้วเจ้าไปทำอะไรกับทรัพย์สมบัติเหล่านั้น ชายคนนั้นตอบว่าฉันได้สานสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติและบริจาคทาน อัลลอฮฺกล่าวว่า เจ้าโกหก บรรดามะลาอิกะฮฺก็กล่าวว่า เจ้าโกหก อัลลอฮฺกล่าวว่าความจริงแล้วเจ้าประสงค์ให้คนอื่นชื่นชมเจ้าว่าเป็นคนใจบุญ ชอบทำกุศลทาน และเจ้าได้ถูกเรียกเช่นนั้นแล้ว  จากนั้นชายที่เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺก็ถูกเรียก และอัลลอฮฺถามเขาว่าเจ้าเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร ชายคนนั้นตอบว่า ฉันได้รับคำสั่งให้ต่อสู้ในหนทางของพระองค์ ฉันจึงได้ต่อสู้จนกระทั่งฉันถูกฆ่าเสียชีวิต อัลลอฮฺกล่าวว่า เจ้าโกหก บรรดามะลาอิกะฮฺกล่าวว่า เจ้าโกหก อัลลอฮฺกล่าวว่า ความจริงแล้วเจ้าประสงค์ให้ผู้คนกล่าวชื่นชมเจ้าว่าเป็นคนกล้าหาญ และเจ้าถูกเรียกเช่นนั้นแล้ว (นบีกล่าวว่า)โอ้อะบูฮูร็อยเราะฮฺ บุคคลสามประเภทนี้คือกลุ่มคนชุดแรกที่ถูกไฟนรกเผาผลาญในวันกิยามะฮฺ


โดย Mazlan Muhammad

ชัยคุลอิสลามแห่งตูนีเซีย

ท่านคือชัยคุลอิสลามแห่งตูนีเซีย เป็นทั้งอิมามใหญ่ยามิอฺซัยตูนะฮ์ มุฟตีและกอฎีชัรอีย์ (ผู้พิพากษาสูงสุดแห่งกฎหมายอิสลาม) ผู้มีนามว่า มูฮัมมัด ฏอฮิร บินอาชูร (มีชีวิตระหว่างปีค.ศ. 1879-1973) สายตระกูลของท่านเป็นชาวอพยพมาจากอันดาลูเซีย นอกจากนี้ท่านยังดำรงตำแหน่งคณบดีคณะนิติศาสตร์อิสลามและอุศูลุดดีนของมหาวิทยาลัยซัยตูนะฮ์  มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอิสลาม

ช่วงนั้นรัฐบาลตูนิเซียโดยประธานาธิบดีบูรฆีบาห์ รณรงค์ให้สตรีตูนีเซียถอดฮิญาบ โดยครั้งหนึ่งนายบูรฆีบาห์ ได้ลงจากรถ แล้วไปถอดฮิญาบของสตรีนางหนึ่งในใจกลางเมืองตูนิเซีย พร้อมกล่าวว่า ยุคมืดได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ทำให้ชัยคุลอิสลามมูฮัมมัดฏอฮิร บินอาชูร อ่านคุตบะฮ์สั้นๆด้วยประโยคว่า “สตรีมุสลิมะฮ์นางหนึ่งได้มาร้องเรียนยังข้าพเจ้า” ท่านทวนประโยคนี้ 2 ครั้งแล้วนั่งลง และลุกใหม่ พร้อมกล่าวว่า “ละหมาดของท่านไม่สร้างความดีงามใดๆ ตราบใดที่ภรรยาและลูกสาวของท่านเปลือยกาย(ไม่ใส่ฮิญาบ)” จงละหมาดเถิด

นายบูรฆีบาห์ได้รณรงค์ไม่ให้ชาวตูนิเซียถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ซึ่งเขาถือว่า การถือศีลอดเป็นเหตุให้เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ ทำให้ผู้คนเกียจคร้านทำงาน เขาจึงดื่มน้ำและสูบซิการ์ในรัฐสภาช่วงเดือนรอมฎอน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไม่ถือศีลอด

เท่านั้นยังไม่พอ เขาได้ไปหาชัยคุลอิสลามอิบนุอาชูร์ ในฐานะมุฟตีและบุคคลสัญลักษณ์ทางศาสนา ผู้มีบทบาทสูงในขณะนั้น พร้อมขอร้องให้ออกคำฟัตวาเรื่องการถือศีลอดให้เป็นไปตามนโยบายอันชั่วร้ายของเขา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยดีจากท่านมุฟตี โดยมีเงื่อนไขว่า รัฐบาลจะต้องเชิญชวนผู้คนมารวมตัวกันเพื่อฟังคำฟัตวานี้

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด รัฐบาลได้เกณฑ์ผู้คนจำนวนมากมาย เพื่อฟังคำชี้ขาดทางศาสนาที่มีความสำคัญนี้ หลังจากที่นายบูรฆีบาห์ให้โอวาทเสร็จ ชัยคุลอิสลามจึงถูกเชิญให้คำฟัตวา ชัยค์จึงพูดว่า

โอ้ชาวมุสลิมทั้งหลาย แท้จริงการทานอาหารในกลางวันรอมฎอน โดยไม่ใช่เป็นการผ่อนปรนทางศาสนา ถือเป็นบาปใหญ่ เพราะการถือศีลอดเป็นหลักปฏิบัติตามศาสนบัญญัติที่สำคัญประการหนึ่งในอิสลาม ผู้ใดที่ปฏิเสธหลักศาสนบัญญัติข้อนี้ ผู้นั้นย่อมเป็นคนตกศาสนาโดยปริยาย พร้อมอ่านอายัตกุรอาน

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ (البقرة/١٨٣)

อัลลอฮ์ตรัสจริงเสมอ

บูรฆีบาห์ต่างหากคือจอมโกหก

บูรฆีบาห์ต่างหากคือจอมโกหก

บูรฆีบาห์ต่างหากคือจอมโกหก

นายบูรฆีบาห์หน้าแตกยับเยินชนิดหมอไม่รับเย็บ

หลังจากนั้นท่านจึงถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งที่ท่านดำรงอยู่ รวมทั้งรัฐบาลยังได้สั่งปิดมหาวิทยาลัยซัยตูนะฮ์เป็นเวลาหลายปี

เกือบ 50 ปีแล้วที่ท่านเสียชีวิต แต่ชาวตูนิเซียก็ยังคงกล่าวดูอาให้กับท่านด้วยดีมาโดยตลอด ชีวประวัติของท่านถูกกล่าวขานอย่างสง่างามต่อไป

แต่สำหรับนายบูรฆีบาห์ ทาสผู้ซื่อสัตย์ของกรุงปารีส ถึงแม้เขาจะเถลิงอำนาจอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีตูนิเซียนานถึง 30 ปี และเพิ่งปิดฉากตำนานแห่งความชั่วร้ายในปี 2000 ที่ผ่านมา ในประเทศตูนีเซียปัจจุบัน เชื่อว่าไม่มีใครคนไหนที่สดุดีและชื่นชมเขา นอกจากชาวเซคิวล่าร์ สาวกแห่งกรุงปารีส ผู้ชิงชังต่ออิสลามและประชาชาติมุสลิมเท่านั้น


โดย Mazlan Muhammad

ว่าด้วยการสร้างภาพและเล่นการเมือง [ตอนที่ 3]

นี่คือผลสรุปของกลุ่มมนุษย์ประเภทหนึ่งที่มีต่อผลงานของเขาที่ได้ทุ่มเทมากว่า40ปี

-เขาคือจอมหลอกลวง

-ในกระเป๋าถือของเขา เต็มด้วยเงินนับล้านที่คอยแจกให้ชาวบ้านคนเอาวามที่เป็นเหยื่อ

-เขาคือนักฉวยโอกาสตัวยง หาประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง นักสร้างภาพ ฯลฯ

-เขาคือจอมฟิตนะฮ์ หน้าไหว้หลังหลอก หน้าซื่อใจคด ( ประโยคหลังนี้ได้ยินมากับหูเลยครับ)

-เขาคือเด็กสร้างของยิว สุนัขรับใช้ ผู้ขัดขวางอุดมการณ์

-เขาคือผู้สร้างความแตกแยก ผู้เกลียดชังและทำลายภาพลักษณ์อุละมาอฺรุ่นก่อน

– ที่อาบน้ำละหมาด(กอเลาะฮ์) ในปอเนาะ เขามีคาถาพิเศษ หากใครคนไหนที่อาบน้ำละหมาดที่นั่น เขาจะเป็นคนเหมือนโดนเวทย์มนต์ที่คอยสะกดให้เชื่อ

ฟังเขาพูดอย่างว่านอนสอนง่ายทันที

-ห้ามฟังคำสอนของเขา ไม่ว่าฟังสด จากเทปคาสเส็ท วิทยุหรือสื่อต่างๆ เพราะหากฟังแม้ครั้งเดียว จะติดใจเหมือนคนเสพติด

-เขาคือวะฮ์ฮาบีตัวพ่อที่มีอะกีดะฮ์ผิดเพี้ยน ลุ่มหลง และเป็นหมานรก

نعوذ بالله من ذلك

اللهم اهد قومنا فإنهم لا يعلمون

ลองหายใจลึกๆแล้วมองบนท้องฟ้า

มองรอบๆตัวเอง แล้วคิดว่า

หากเขาเป็นเช่นนั้นจริงๆ แสดงว่า

– เขาคงมีคดีฉ้อโกงมากมายที่มีคนฟ้องร้องทั่วประเทศ

– ต่างชาติโดยเฉพาะประเทศอ่าวอาหรับคงไม่โง่พอที่จะสนับสนุนคนฉ้อโกงมโหฬารแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ปีแล้ว

– 40 กว่าปีที่อาสากลับทำงานในบ้านเกิดเมืองนอน เขาสามารถกอบโกยสะสมเงินทองกี่ร้อยล้าน มีเงินฝากในธนาคารกี่สิบล้าน มีที่ดินจัดสรรรอบๆมหาวิทยาลัยและที่อื่นๆกี่ร้อยไร่

– กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดิเอสไอ) เคยรับเรื่องสอบสวนเขากี่คดีแล้ว

– เราเคยมีผู้หลอกลวง อะกีดะฮ์เพี้ยนคนไหนบ้างในประเทศนี้และในโลกนี้ที่มีผลงานเช่นเขา

ทำไมเราไม่เคยมองคุณูปการอันอเนกอนันต์ที่เขาสร้างมาตลอดระยะเวลาดังกล่าว อาทิ

– มัสยิดนับร้อยทั่วประเทศที่เขาช่วยประสานติดต่อและให้การรับรอง ที่บางคนมองว่าเป็นแหล่งสร้างฟิตนะฮ์และความแตกแยก แต่สำหรับอิสลามถือว่า ผู้ใดสร้างมัสยิด 1 หลัง เขาจะได้รับผลบุญเทียบเท่ากับสร้างบ้านในสวรรค์ทีเดียว

– เขาให้ใบรับรองแก่เยาวชนจำนวนนับพันๆคนเพื่อศึกษาต่อในระดับต่างๆทั้งในและต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยหลายสิบแห่งทั่วโลกก็ยังคงต้องการใบรับรองจากเขา (หากเขาเก็บค่าธรรมเนียมใบรับรองคนละ 100-200 เชื่อว่าน่าจะสามารถสร้างบ้านหลังเล็กๆให้ลูกหลานได้หลังหนึ่ง)

– เขาคือสะพานเชื่อมให้องค์กรระหว่างประเทศโดยเฉพาะองค์กรสาธารณกุศลจากประเทศอาหรับมาให้ความช่วยเหลือและพัฒนาสังคมด้วยโครงการต่างๆนับพันโครงการ

– สร้างมหาวิทยาลัยด้วยงบประมาณ 0 บาทจนกลายเป็นพันๆล้านบาทจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการประเมินฯในทุกขั้นตอน

– เขาสร้างภาพได้อย่างไรให้นักธุรกิจจากมาเลเซีย อินโดนีเซียและอื่นๆสนใจร่วมลงทุนในโครงการมะดีนะตุสสลาม

– นี่คือผลงานของชาวนรก ผู้มีอะกีดะฮ์ผิดเพี้ยนลุ่มหลงกระนั้นหรือ

แต่มีมนุษย์แมลงวันบางประเภท คอยตอกย้ำความผิดพลาดของมือขวาของเขาที่ครั้งหนึ่ง ไปสัมผัสนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศ เพื่อประกาศให้สังคมจดจำว่านี่คือบาปอันใหญ่หลวงที่เขาได้กระทำที่ต้องกระชากให้เข้านรกให้จงได้

ไม่รู้ว่าใช้จิตใจส่วนไหนไปจินตนาการ และสมองซีกไหนไปคิด

โดยปิดตาและมองข้ามสองมือของเขา ที่ยกมือขอดุอาให้อัลลอฮ์ยกโทษยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและช่วงเวลาและโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาอันประเสริฐสุดขณะเข้าในอาคารกะอฺบะฮ์ในเดือนรอมฎอน

ด้วยมือขวาอันเดียวกัน เขาเคยสัมผัสบุคคลระดับองค์ประมุขของประเทศ ผู้นำ อุละมาอฺ นักวิชาการระดับโลกมากมายนับไม่ถ้วน

ด้วยมือขวาอันเดียวกัน ที่เขาจรดปากกาเขียนตำรา หนังสือ บทความทางวิชาการในหัวข้อต่างๆมากกว่า 150 ชื่อเรื่อง หนึ่งในนี้คืออัซการ์เช้าเย็น ที่เขาเขียนเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ที่คนเรียนศาสนาบางคนในยุคนั้นแทบไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร นับประสาอะไรกับคนเอาวาม

ด้วยมือขวาอันเดียวกัน ที่เขาเริ่มเขียนตำราเรียนระดับตาดีกาและอิบติดาอีย์สมัยที่เขามีอายุเพียง 17 ปี และยังคงใช้เป็นตำราเรียนในหลายโรงเรียนจวบจนปัจจุบัน ซึ่งอาจมีบางคนที่กำลังด่าทอเขาขณะนี้ อาจเคยร่ำเรียนจากตำราที่เขาเขียนมาก็ได้

ด้วยมือขวาเดียวกัน เขาเคยลูบสัมผัสเด็กกำพร้า คนยากจน เยาวชนและผู้คนจากทั่วสารทิศ

ด้วยสองมือนี้ เขาคือส่วนหนึ่งในจำนวนผู้พลิกแดนระเบียงมักกะฮ์ที่แห้งเหือดที่แม้กระทั่ง ในยุคหนึ่ง สังคมที่นี่มองว่า การสอนตัฟซีร สอนหะดีษคือความลุ่มหลง การใส่ฮิญาบดำของมุสลิมะฮ์คืออาภรณ์ของชาวนรก จนเกิดกระแสผีขนุนที่สร้างความหวาดกลัวในสังคมยุคนั้น การเอี้ยะติก้าฟทำให้มัสยิดสกปรกด้วยน้ำลายและมัสยิดไม่ใช่เป็นที่ซุกหัวนอน ให้กลายเป็นดินแดนที่กระชุ่มกระชวยด้วยทางนำและการปฏิบัติสุนนะฮ์นบีอย่างกว้างขวาง

ด้วยสองมือนี้ เขาได้มีส่วนพัฒนาสังคมโดยเฉพาะด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่แม้แต่นักการเมืองระดับชาติบางคนก็ยังไม่สามารถทำดีได้เท่า

بعد التوفيق والكرم والمنة من الله تعالى

เราไม่เคยยกย่องเขาว่า เป็นผู้วิเศษวิโสที่สามารถหายตัวไปละหมาดวันศุกร์หน้ากะอฺบะฮ์ทุกอาทิตย์

เพราะเขาคือปุถุชนที่มีความอ่อนแอและความผิดพลาดมากมาย ที่เราหวังว่าอัลลอฮ์ยกโทษให้เขาและเราทั้งปวง

เพียงแต่เราอยากขอบคุณ ให้กำลังใจและร่วมคาราวานพร้อมกับเขาในการเดินหน้าร่วมพัฒนาสังคมตามกำลังความสามารถและโอกาส

เพราะอิสลามสอนว่า

“จะไม่ใช่เป็นผู้ขอบคุณอัลลอฮ์ สำหรับคนที่ไม่รู้จักขอบคุณเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”

คนที่กล่าวหา ใส่ร้ายและฟิตนะฮ์เขาในวันนี้

ลองถามตัวเองหน่อยไหมว่า

คุณสะสมความดีมากมายแค่ไหน ที่จะชดเชยให้เขาในวันกิยามะฮ์

ความผิดพลาดและบาปของเขาที่คุณเที่ยวตอกย้ำอย่างเป็นระบบและเทศกาล คุณพร้อมที่จะแบกรับมันใช่หรือไม่

#โปรดหายใจลึกๆ

#แล้วมองไปยังฟ้ากว้างอีกครั้ง

أعوذ بالله من الشيطان الرجيم

قُلْ هَٰذِهِ سَبِيلِي أَدْعُو إِلَى اللَّهِ ۚ عَلَىٰ بَصِيرَةٍ أَنَا وَمَنِ اتَّبَعَنِي ۖ وَسُبْحَانَ اللَّهِ وَمَا أَنَا مِنَ الْمُشْرِكِينَ (يوسف/١٠٨)


โดย Mazlan Muhammad

ว่าด้วยเรื่องการสร้างภาพและการเมือง [ตอนที่ 2]

นอกจากคนไทย 3 คนจากประเทศไทยในฐานะทีมช่างทำประตูกะอฺบะฮ์ ซึ่งนำโดยอ. อับดุลลอฮ์ นาคนาวาในฐานะล่าม ที่ได้รับโอกาสเข้ากะอฺบะฮ์เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว (ดู http://islamhouse.muslimthaipost.com/article/21931 และแอดมินมีโอกาสสัมภาษณ์ ตลอดจนพูดคุยกับอ. อับดุลลอฮ์ นาคนาวาเมื่อ 6-7 ปีแล้วที่รีสอร์ทของท่านก่อนถึงเขายายเที่ยง โคราช) แอดมินยังไม่ทราบว่ามีชาวไทยคนไหนบ้างที่ได้รับเกียรติเข้ากะอฺบะฮ์ในฐานะแขกพิเศษของกษัตริย์ผู้อุปถัมภ์มัสยิดหะเราะมัยน์อันทรงเกียรติ

หากกวาดสายตาไปยังลูกหลานฟาฏอนี แดนระเบียงมักกะฮ์ด้วยแล้ว ด้วยความรู้อันน้อยนิดของแอดมิน ยังไม่ทราบว่ามีลูกหลานชาวฟาฏอนี ระเบียงมักกะฮ์ คนไหนบ้างที่มีโอกาสสุดพิเศษนี้ (หากมี ช่วยส่งข้อมูลด้วยครับ)

แต่ที่แน่ๆ ชายวัยเฉียด 70 ปีคนหนึ่ง ซึ่งชาวดินแดนระเบียงมักกะฮ์ส่วนหนึ่งขับไล่ไส่ส่งเขา ด่าทอและสาปแช่งเขา ฟิตนะฮ์และใส่ร้ายเขาตลอดเวลา แม้กระทั่งเด็กอมมือและนักเลงคีย์บอร์ดยังริจาบจ้วงเขาทุกยามเมื่อชนิดไม่หยุดหย่อน

เขาเคยถูกตัดต่อภาพสีเป็นรูปพระใส่จีวรเหลือง แลัวใส่รูปของเขาที่โกนหัวแทน เพื่อสื่อว่า แท้จริงเขาตกมุรตัดแล้ว (เป็นเหตุการณ์เกิดเมื่อราว 20 ปีแล้วในตัวเมืองของจังหวัดแห่งหนึ่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ในช่วงรอมฎอน) พร้อมคำใส่ร้ายด้วยฉายาอื่นๆมากมาย

คนๆเดียวกันนี้ ได้รับเขิญจากกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย กษัตริย์คูเวต เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ รัฐบาลโอมาน รัฐบาลมอร็อคโกให้เดินทางละศีลอดร่วมกับแขกพิเศษ 40-50 คนทั่วโลก พร้อมได้รับการต้อนรับอย่างทรงเกียรติในนามแขกรัฐบาล

ที่สำคัญที่สุด เขาได้รับโอกาสเข้าในกะอฺบะฮ์และรับของขวัญผ้าชิ้นส่วนกะอฺบะฮ์จากผู้แทนกษัตริย์มาจำนวนมากกว่า 3 ครั้ง

(ผ้าชิ้นส่วนกะอฺบะฮ์ เป็นธุรกิจซื้อขายที่ได้รับความสนใจในหมู่ลูกหลานชาวระเบียงมักกะฮ์มาก โดยเฉพาะสายเปย์มือหนักๆ ถึงขั้นยอมควักจ่ายเงินเป็นแสนเพื่อได้ชิ้นส่วนผ้ากะอฺบะฮ์ ซึ่งไม่มีใครรับรองว่าเป็นของแท้ ดีไม่ดีกลายเป็นเม็ดอินชวาก็มีถมไป แต่พกกลับบ้านอย่างสบายอุรา)

เราไม่ทราบว่า เขาดุอาอะไรบ้างในอาคารกะอฺบะฮ์อันทรงเกียรตินั้น แต่เราแอบหวังว่า เราคือหนึ่งในดุอาของเขา เราพอใจแล้ว

ส่วนจะมีโอกาสเข้าในกะอฺบะฮ์เหมือนเขาบ้างนั้น แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ลำพังแค่จูบหินดำและดุอาใต้รางทอง ก็กลายเป็นตำนานที่เล่าขานให้ลูกหลานไม่รู้จบแล้ว

เขาสร้างภาพเลอเลิศแค่ไหน ที่ได้โอกาสสุดพิเศษเยี่ยงนี้

#ถามจริง


โดย Mazlan Muhammad

ว่าด้วยการสร้างภาพและเล่นการเมือง [ตอนที่ 1]

น่าจะเป็นตำราวิชาการเล่มแรกกระมังที่เป็นผลงานเขียนของชาวฟาฏอนีในยุคนี้ ที่ได้รับการตีพิมพ์จำนวน 7 ครั้งในรอบกว่า 30 ปีโดยสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงสำนักหนึ่ง ณ ดินแดนกิบลัตแห่งความรู้อย่างอิยิปต์

ตั้งแต่พิมพ์ครั้งแรกจนกระทั่งพิมพ์ครั้งล่าสุด ท่านยังคงใช้ชื่อที่พ่วงท้ายด้วยคำว่า فطاني ย้ำครับว่า فطاني ที่มี ط ไม่ใช่ ت ตามที่ทุกคนเข้าใจนั่นแหละครับ

ที่มาของตำราเล่มนี้คือวิทยานิพนธ์ป.เอก ที่คณะกรรมการสอบคือปรมาจารย์ชั้นยอดด้านกฎหมายอิสลามในซาอุดิอาระเบียในขณะนั้น ซึ่งมีมติเอกฉันท์ให้คะแนนเกียรตินิยมอันดับ 1 ประเภทดีเลิศ พร้อมได้รับการแนะนำให้พิมพ์เผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ประชาคมโลก ซึ่งในวงการวิชาการถือว่าเป็นการให้คุณค่าและเป็นเกียรติประวัติอย่างสูงยิ่งแก่เจ้าของวิทยานิพนธ์

จนถึงปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์มาแล้ว 7 ครั้ง และถูกวางจำหน่ายไปยังร้านหนังสือทั่วโลกอาหรับและโลกอิสลาม รวมทั้งห้องสมุดมหาวิทยาลัยอิสลามชั้นนำกว่า 100 สถาบันการศึกษาทั่วโลก แม้กระทั่งบุคคลระดับดร. ยูซุฟ อัลเกาะเราะฎอวีย์ ยังใช้เป็นหนึ่งในหนังสืออ้างอิงในหนังสือของท่าน فقه الجهاد ที่ท่านได้ทุ่มเท ฝังตัวเองในบ้านและห้องสมุดเพื่อเขียนหนังสือเล่มนี้นานกว่า 5 ปี และที่สำคัญดร. อัลเกาะเราะฎอวีย์ได้ให้เกียรติด้วยการมอบหนังสือ فقه الجهاد อันทรงคุณค่านี้ให้กับนายฟาฏอนีคนนี้ด้วยมือของท่านเองเมื่อราว 7-8 ปีที่แล้ว พร้อมลงลายมือชื่อแทนความรักและการให้เกียรติที่มีต่อกัน

นี่คือเสี้ยวหนึ่งของการสร้างภาพและเล่นการเมืองของนายฟาฏอนีคนนี้ครับ

ปล.  เขาเริ่มสร้างภาพด้วยการใช้คำว่า “ฟาฎอนี” ที่ลงท้ายชื่อตัวเองเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว สมัยที่ใครบางคนยังอยู่ในโลกวิญญาณด้วยซ้ำ

جزاه الله كل خير  وبارك في جهوده وحفظه ورعاه وكثر أمثاله


โดย Mazlan Muhammad

อิสลามบูรณาการ

บางคนระวังตัวว่าจะบังเอิญกลืนกินน้ำลงไปในลำคอหยดสองหยด กลัวจะทำให้เสียศีลอด 

แต่กลับไม่กลัวการกลืนกินสิทธิประโยชน์ของผู้อื่น  ที่จะทำให้โลกหน้าของตนเองเสียหาย”

ชัยค์มุฮัมมัด ฆอซาลี


แปลโดย Ghazali Benmad

ปรัชญามะพร้าว

1.มะพร้าว ตกจากที่สูง ไม่เเตก เพราะมีเปลือกหนาห่อหุ้มไว้ ดุจคนดีมีศีลธรรม เเม้คราวตกต่ำก็ไม่ทิ้งความดี มีเกราะหนาคอยคุ้มครองนั่นคือความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์

   

2. มะพร้าวมีน้ำได้ด้วยตนเอง ไม่มีใครตักน้ำใส่ ดุจคนผู้ใฝ่ดี แสวงหาความดี ทำดีได้ด้วยตนเอง เเต่ก็น้อมรับคำชี้เเนะของคนอื่นเสมอ

   

3. มะพร้าวตกน้ำไม่จมน้ำ ลอยน้ำได้ ดุจคนดีเเม้พลาดพลั้งในชีวิต ก็สามารถประคองชีวิตได้ ไม่จมอยู่กับความผิดพลาด นำพาตัวเองจากวิกฤตสู่โอกาสเสมอ

  

4.มะพร้าว จมดินโคลนที่สกปรกสามารถเติบโตงอกเงยได้ ดั่งคนดีเเม้เกิดในตระกูลต่ำ ยากลำบาก ก็ยังสามารถเติบโตก้าวหน้าเป็นคนดีในสังคม ยกฐานะทางสังคมของตนได้

         

5.      ทุกส่วนของต้นมะพร้าว ล้วนมีประโยชน์ ทั้งลำต้น ผล ใบ ก้าน กาบ ทาง น้ำ กะทิ เนื้อแม้กระทั่งกากมะพร้าว ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้มนุษย์เรืองปัญญาให้ยึดปรัชญามะพร้าวในการดำเนินชีวิตให้เป็นคนที่สร้างประโยชน์แก่สังคมในทุกภาคส่วนทั้งความรู้ ประสบการณ์ ทรัพย์สิน ลาภยศ ชื่อเสียง และมิตรสหายเป็นต้น


โดย Mazlan Muhammad

ความรู้ที่ถูกยกไป

มูฮัมมัด อาลี อัศศอบูนีย์

อุละมาอฺผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค เกิดเมื่อ 1 มกราคม 1930 ที่เมืองหะลับ ซีเรีย เสียชีวิตแล้ว เมื่อ 19 มีนาคม 2021 ขณะอายุ 91 ปี ถือเป็นการสูญเสียผู้รู้ที่สำคัญในโลกอิสลามโดยเฉพาะด้านตัฟซีร อัลกุรอาน เจ้าของผลงาน مختصر تفسير ابن كثير،  صفوة التفاسير ، تفسير آيات الأحكام และอื่นๆ อีกกว่า 50 เล่ม

เคยได้รับการยกย่องเป็นบุคคลแห่งปีโลกอิสลาม ปี 2007 จาก “รางวัลนานาชาติดูไบเพื่ออัลกุรอาน”

เคยสอนที่คณะชะรีอะฮฺและอิสลามศึกษาที่นครญิดดะห์ร่วม 30 ปี ได้รับการแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยกษัตริย์ อับดุลอะซีซ เมืองญิดดะห์ เป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยที่ศูนย์วิจัยและฟื้นฟูวัฒนธรรมอิสลาม เป็นที่ปรึกษาสันนิบาตโลกมุสลิมโลก เป็นผู้สอนและให้คำวินิจฉัยรายวันที่มัสยิดหะรอม เคยได้รับเชิญเป็นอิมามนำละหมาดตะรอเวี้ยะห์และละหมาดศุบฮิที่มัสยิดหะรอม

ชัยค์อัศศอบูนีย์ได้วิจารณ์นายบัชชาร์ อะสัด ประธานาธิบดีซีเรียว่าเป็น มุสัยลิมะฮ์ อัลกัซซาบ และตักเตือนชัยค์มูฮัมมัด รอมฎอน อัลบูฏีย์ ด้วยคำตักเตือนที่รุนแรงเพราะชัยค์อัลบูฏีย์สนับสนุนนายบัชชาร์ อะสัดและไม่เห็นด้วยกับการลุกขึ้นต่อต้านระบอบบัชชาร์ของประชาชนชาวซีเรีย

ด้วยจุดยืนอันดุดันและมั่นคงที่สนับสนุนและเคียงข้างการประท้วงของชาวซีเรีย ทำให้สื่ออาหรับและชาวซีเรียตั้งฉายาท่านว่า “الشيخ الثائر” หรือผู้เฒ่านักปฏิวัติ

غفر الله له ورحمه رحمة واسعة وأدخله فسيح جناته ورزق لأهله وذويه الصبر والسلوان


โดย Mazlan Muhammad

10 ผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ จอมทัพมุสลิมเชิงยุทธศาสตร์

คลิปดีๆ  สุดยอด  10 ผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ จอมทัพมุสลิมเชิงยุทธศาสตร์

1. อบูยะฟัร อัลมันซูร ผู้สร้างอาณาจักรอับบาซียะฮ์ตัวจริง

2. อับดุลเราะห์มาน อัดดาคิล  ผู้พิชิตไอบีเรียและสถาปนาอาณาจักรอิสลามในสเปนกว่า 780 ปี

3. อัลป์ อัรสะลาน เติร์กเซลจู๊กผู้เปิดประตูดินแดนอานาโตเลีย ผู้กรุยทางสู่อาณาจักรเติร์กออตโตมัน

4. นูรุดดีน ซังกี  ผู้พิชิตก๊กอาหรับเผ่าต่างๆ จนเป็นหนึ่งเดียว ทั้งอียิปต์และแคว้นชาม  เพื่อการกอบกู้มัสยิดอักซอ

5. ซอลาหุดดีน  อัยยูบีย์ แม่ทัพของนูรุดดีน ซังกี ผู้พิชิตครูเสดและกอบกู้มัสยิดอักซอ

6. ซัยฟุดดีน  กุตุซ  ผู้หยุดมองโกลในโลกมุสลิม ในสมรภูมิอัยน์จาลูต  อียิปต์

7. ยูซุฟ บินตัชฟีน  ผู้ปกครองดินแดนแอลจีเรีย โมรอคโค  ผู้ปราบครูเสดและปกครองแอนดาลุสเซีย  กว่า 400 ปี ไปจนวันกรานาดาล่มสลาย

8. มุฮัมมัด  ฟาติห์ แห่งออตโตมัน ผู้พิชิตคอนสแตนติโนเปิล

9. สะลีม ที่ 1 แห่งออตโตมัน ผู้พิชิตดินแดนต่างๆ จนออตโตมันมีดินแดนกว้างใหญ่สูงสุด ผู้พิชิตซาฟาวิด และปกครองอียิปต์  ชาม และหิจาซ

10. สุลัยมาน  กอนูนีย์ ผู้วางรากฐานทางกฎหมายของออตโตมัน และปกป้องโลกอาหรับจากการตกเป็นเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคม

#ศัตรูไม่เคยลืมพวกเขาแต่มุสลิมเรากลับลืมเลือน

#ชนใดไร้ประวัติศาสตร์ชนนั้นย่อมไร้อนาคต


โดย Ghazali Benmad