ชาวอิดลิบภายใต้เปลวเพลิง

อัลจาซีร่าห์ระบุชาวอิดลิบจำนวน 1.7 ล้านคนหนีตายไปยังชายแดนตุรกี หลังจากรัฐบาลบัชชาร์ที่ได้รับการสนับสนุนทางอาวุธอย่างเต็มที่จากรัสเซียและกำลังพลจากอิหร่าน ได้โจมตีเมืองอิดลิบตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยอ้างว่า ปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย

ล่าสุดรัฐบาลตุรกีได้ขีดเส้นตายให้บัชชาร์ถอยกำลังออกจากพื้นที่ในข้อตกลงภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า หากไม่ได้รับการตอบสนองจากขัอตกลง อาจเกิดการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ระหว่างตุรกีฝ่ายหนึ่งกับรัสเซียและอิหร่านอีกฝ่ายหนึ่ง

เป็นที่น่าสังเกตว่า ขาวอิดลิบเกือบ 2 ล้านต้องอพยพหนีตายไปยังชายแดนตุรกี แทนที่จะได้รับการปกป้องจากรัฐบาลของตนเอง เพราะในความเป็นจริงรัฐบาลบัชชาร์อยู่ภายใต้การบริหารโดยรัฐบาลมอสโกและเตหะรานอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว

อ่านเพิ่มเติม https://www.aljazeera.net/news/politics/2020/2/17/%D8%AA%D8%B7%D9%88%D8%B1%D8%A7%D8%AA-%D8%B3%D9%88%D8%B1%D9%8A%D8%A7-%D8%BA%D8%A7%D8%B1%D8%A7%D8%AA-%D8%AD%D9%84%D8%A8-%D9%85%D8%B9%D8%A7%D8%B1%D9%83-%D8%A5%D8%AF%D9%84%D8%A8-%D9%85%D8%A8%D8%A7%D8%AD%D8%AB%D8%A7%D8%AA-%D8%B1%D9%88%D8%B3%D9%8A%D8%A7-%D8%AA%D8%B1%D9%83%D9%8A%D8%A7

พวกเขาต้องการซีเรียเป็นแบบไหนกัน

อ่านความคิดเติร์ก ต่อจุดยืนตุรกีในอิดลิบ จากบทความร้อนๆ ของอิบรอฮีม กราฆูล บรรณาธิการ yenisafak นสพ.ตุรกี สายนิยมรัฐบาล (ตอนที่ 1)

ด้วยเหตุนี้กระมัง ที่โลกทั้งผองกำลังโดดเดี่ยวตุรกีและชี้หน้าตุรกีว่าเป็นประเทศก่อการร้าย


ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและรัสเซียได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในอิดลิบ
ผู้มีอำนาจในอเมริกา อังกฤษและอิสราเอล ได้รีบเร่งการเคลื่อนไหวทันที และไปถึงจุดที่เกือบจะทำให้พวกเขาพูดว่า “มาๆ เรามายิงเครื่องบินรัสเซียลำใหม่และเข้าสู่การทำสงครามต่อต้านรัสเซียเลย”

อย่าลืมว่า อเมริกาและอิสราเอลเคยมีการปฏิบัติเช่นนี้ ผ่านองค์กรก่อการร้ายกูเลน ก่อนการก่อกบฏเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม

พวกเขาต้องการให้ตุรกี-รัสเซีย เข้าสู่สงครามที่ใกล้เข้ามา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายไม่ใช่ซีเรีย แต่เพื่อจุดชนวนสงครามระหว่างตุรกีและรัสเซีย และเมื่อสงครามครั้งนี้ระเบิดขึ้น ตะวันตกจะเริ่มต้นจู่โจมตุรกีเพื่อจัดตั้งรัฐสำหรับองค์กรก่อการร้ายกูเลน

• อเมริกาและอังกฤษสนับสนุนฝ่ายไหน ?

ในทุกวันนี้ อเมริกาและสหราชอาณาจักรยังไม่ยอมแพ้ที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มดังกล่าวในลักษณะเดียวกับในอดีต ผ่านแถลงการณ์ต่อเนื่องเพื่อจุดชนวนวิกฤติระหว่างตุรกีและรัสเซีย แผนการที่วางอยู่บนโต๊ะมีการแทนที่องค์กรก่อการร้ายกูเลนด้วยตัวเลือกอื่น ๆ โดยเฉพาะตัวเลือกที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยม

เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะวิเคราะห์ทุกอย่างตามขนาด ผลกระทบและฐานะที่แท้จริง เพราะตุรกีเคยเสียหายสำหรับการยอมจำนนต่อบางฝ่ายที่มีวาระซ่อนเร้น บางคนจุดชนวนสงครามในซีเรียและโยนมันลงในความรับผิดชอบของตุรกี และผู้ที่ปลุกระดมความคิดเห็นของสาธารณะชนเกี่ยวกับสงครามในเวลานั้น กลับซุกหัวในความเงียบหลังจากที่ตุรกีอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

• สำหรับสถานการณ์ตอนนี้เป็นดังนี้

ปัญหาของอิดลิบเป็นปัญหาของผู้ลี้ภัยชาวอาหรับสุหนี่หลายล้านคน ที่ได้รับการทอดทิ้งจากระบอบการปกครองของซีเรีย “เขตลดระดับความรุนแรง” เกิดขึ้นจากการบรรลุข้อตกลงระหว่างตุรกีและรัสเซีย จากนั้นอิหร่านและระบอบการปกครองของดามัสกัสก็ได้ให้สัตยาบัน ซึ่งการกำหนดเขตลดระดับความรุนแรงเป็นวิธีในการปกป้องพลเรือนนับล้าน

• ทำไมรัสเซียและอิหร่านไม่ออกมาพูดแม้แต่คำเดียวเพื่อต่อต้านสิ่งที่อเมริกาและ PKK กำลังทำ ?

ทำไมอิหร่านถึงเงียบเฉยต่อการกระทำของอิสราเอล?

ดูเหมือนว่ารัสเซียและอิหร่านเชื่อว่าความแข็งแกร่งของระบอบการปกครองดามัสกัสเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจึงเรียกร้องให้ตุรกีถอนตัวจากภูมิภาคดังกล่าว โดยการเรียกร้องสู่ “ความเป็นหนึ่งเดียวของซีเรีย” แต่ในขณะที่พวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขาไม่พูดอะไรเลยเพื่อต่อต้านสิ่งที่อเมริกาและ PKK กำลังทำอยู่ ทั้งๆที่พวกเขาสามารถควบคุมดินแดนได้ถึงหนึ่งในสามของพื้นที่ซีเรียทั้งหมด

ทั้งรัสเซียและอิหร่านหรือแม้แต่ระบอบการปกครองของซีเรีย ไม่มีการต่อต้านการยึดครองของอเมริกาและกลุ่ม PKK และพวกเขาไม่เคยพูด – โดยเฉพาะอิหร่าน- เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อดามัสกัส

• พวกเขาต้องการซีเรียแบบไหน รัฐสำหรับชนกลุ่มน้อยทางนิกาย? สถานะของชาวอาหรับสุหนี่หลายล้านอยู่ที่ไหน ?

พวกเขากำลังพูดถึงซีเรียหนึ่งเดียวอะไร ? ซีเรียแบบไหน ? พวกเขากำลังพูดถึงชนกลุ่มน้อยในนิกายที่ระบอบการปกครองของดามัสกัสสนับสนุน? ชะตากรรมของผู้พลัดถิ่นและผู้ลี้ภัยหลายล้านคนในอิดลิบ และผู้ลี้ภัยอื่น ๆ อีกหลายล้านคนในตุรกีเป็นอย่างไร ?

ซีเรียสำหรับคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน ระบอบการปกครองของดามัสกัสเป็นรัฐบาลชนกลุ่มน้อยซึ่งไม่ได้รับการยอมรับจากประชากรส่วนใหญ่ ซีเรียหนึ่งเดียวแบบไหนที่รัสเซียและอิหร่านต้องการ

อ่านตอนที่ 2 คลิ๊ก > https://www.theustaz.com/?p=2949

ถอดความโดย Ghazali Benmad

อ่านบทความต้นฉบับ https://m.yenisafak.com/ar/columns/ibrahimkaragul/2042780

ตุรกี-รัสเซีย ใกล้ถึงจุดแตกหัก

อัลจาซีร่าวิเคราะห์ ตุรกี-รัสเซีย ใกล้ถึงจุดแตกหัก

รัฐบาลอะซัดและรัสเซีย ยังคงเดินหน้าถล่มเมืองอิดลิบ หวังขยี้ที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายต่อต้าน ในขณะที่ตุรกีกร้าว อิดลิบเป็นเขตหวงห้ามตามข้อตกลงโซกี และแอสตานา เพราะพัวพันความมั่นคงภายในของตุรกี พร้อมส่งทหารเข้าเสริมกำลังตลอดเวลา

ในขณะที่รัสเซียอ้างว่าไม่ได้โจมตีฝ่ายต่อต้านแต่โจมตีกลุ่มก่อการร้าย

การถล่มของอะซัดและรัสเซียในครั้งนี้ ทำให้ชาวซีเรียนับล้านต้องอพยพมุ่งหน้าไปยังตุรกี

ต่อมาวานนี้ 16/2/2563 ประธานาธิบดีรัสเซียและตุรกีได้ต่อสายเจรจากัน แต่ไร้ผล หลังจากนั้น ประธานาธิบดีตุรกีออกมาแถลงยืนยัน ระบอบอะซัดต้องออกไปจากเขตลดความรุนแรงในอิดลิบ ตามข้อตกลงเดิมภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ หาไม่แล้วตุรกีจะบังคับให้ออกไปเอง

ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียยังคงยืนกราน ต้องใช้การทูตมาเจรจาหาแนวทางแก้ปัญหาอิดลิบ

ด้วยจุดยืนที่ขัดแย้งกันอย่างสุดขั้วและยังหาทางออกไม่ได้ นับเป็นความขัดแย้งครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติซีเรีย และมีแนวโน้มการปะทะกันโดยตรงครั้งแรกระหว่างตุรกีกับรัสเซีย ( อัลจาซีร่า )

โดย Ghazali Benmad

เว็บไซต์ต้านข่าวลือภาคภาษาอาหรับ

เว็บไซต์ fatabyyano.net ก่อตั้งเมื่อปี 2014 มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบข่าวปลอมหรือข่าวลือที่เผยแพร่ในโชเชียลภาคภาษาอาหรับ พร้อมนำเสนอข่าวคราวที่ถูกต้องและมีแหล่งข้อมูลที่เป็นที่น่าเชื่อถือ

เว็บไซต์ดังกล่าวได้ระบุว่า ตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 (ไวรัสโคโรน่า) แพร่ระบาดในประเทศจีน มีข่าวเท็จมากมายที่ถูกนำเผยแพร่ในโลกโชเชียลภาคภาษาอาหรับที่ถูกเชื่อมโยงกับไวรัสร้ายนี้ ส่วนหนึ่งได้แก่

⁃ รัฐบาลจีนสั่งฆ่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ขยายเนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถรักษาได้

⁃ ชาวจีนจำนวน 20 ล้านคนรับอิสลาม หลังพบว่าชุมชนมุสลิมในประเทศจีนไม่มีการติดเชื้อไวรัสร้ายดังกล่าว

⁃ รัฐบาลจีนอนุญาตให้มีการอาซาน และละหมาดในมัสยิดทั่วประเทศ เพื่อให้มุสลิมขอพรระงับการเผยแพร่ของไวรัสร้ายนี้

⁃ ประธานาธิบดีจีนได้ตะเวนเยี่ยมมัสยิดต่างๆทั่วประเทศจีน เพื่อรณรงค์ให้ชาวมุสลิมขอพรต่อพระเจ้า

⁃ รัฐบาลจีนสั่งฆ่าสุกรและนกจำนวนมาก เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ข่าวในลักษณะนี้ถูกนำเสนอโดยมีภาพและคลิปวิดีโอประกอบ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริง ข่าวดังกล่าวล้วนเป็นข่าวปลอมที่ไม่มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือมาสนับสนุนเลย

จึงขอความร่วมมือจากมุสลิมทุกคน ได้ระมัดระวังในการเสพข้อมูลต่างๆ และควรมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารตามคำสอนของหลักการอิสลามที่ได้กำชับมิให้มุสลิมตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม เพราะจะนำไปสู่การเป็นบุคคลที่เป็นจอมโกหกโดยไม่รู้ตัว

ทีมข่าวต่างประเทศ

Fake news ลวงให้เชื่อ หลอกให้แชร์

Fake news คืออะไร

คือ ข่าวปลอม ข่าวเท็จ ข่าวโกหก ข่าวลวง หรือข่าวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

ทำไมเราต้องรู้เท่าทันข่าวประเภทนี้
การแนะนำสิ่งปลอมว่าปลอม เป็นสิ่งที่ควรทำ แม้กระทั่งในดุอา นบียังสอนว่า

اللهم أرنا الحق حقا وارزقنا اتباعه وأرنا الباطل باطلا وارزقنا اجتنابه

“โอ้ อัลลอฮ ได้โปรดให้ฉันเห็นความจริงคือความจริง และโปรดให้ฉันได้ปฏิบัติตามความจริง โอ้อัลลอฮ์ ได้โปรดฉันเห็นความเท็จเป็นความเท็จ และให้ฉันได้ห่างไกลจากมัน”

การที่เรารู้ว่าจริงคือจริง และปลอมคือปลอม ถือเป็นความรู้ที่มีประโยชน์ แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน

ในทุกวันนี้ สังคมเราโดนหลอกเพราะรู้ของจริงเป็นปลอม และรู้ของปลอมว่าจริงนี่แหละครับ

สิ่งปลอมจึงมีทั่วทุกวงการ

บ้านเราจึงมีหะดีษปลอม ธุรกิจปลอม ข่าวปลอม เผยแพร่มากมาย

ต่อไปนี้เราควรรู้ศัพท์ใหม่สำหรับคนบางคนว่า fake news คืออะไรนะครับ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.etda.or.th/content/living-in-the-fake-news-era.html

Fake news | ชาวจีน 20 ล้านคนรับอิสลามหลังพบว่าชุมชนมุสลิมไม่มีใครติดไวรัสโควิด-19 (โคโรน่า)

สื่ออาหรับเผยแพร่ข่าวชาวจีนจำนวน 20 ล้านคน รับอิสลามหลังพบว่าชุมชนมุสลิมไม่มีใครติดเชื้อไวรัสซึ่งถือเป็นข่าวปลอมที่ไม่มีแหล่งข่าวทางการใดๆนำเสนอ

ในความเป็นจริงเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถติดเชื้อไปยังทุกคนโดยไม่เกี่ยวกับภาษา ศาสนาและชาติพันธ์ุแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ สื่ออินโดนีเซียเผยแพร่ข่าวระบุว่าชาวอังกฤษจำนวน 3 ล้านคนรับอิสลามคราวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นข่าวลวงเช่นเดียวกัน

มุสลิมทุกคนดีใจเมื่อทราบข่าวการรับอิสลามของพี่น้องทั่วโลก แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องรับฟังข่าวปลอมหรือ เป็นผู้เผยแพร่ข่าวปลอมในเรื่องนี้

WHO ตั้งชื่อ”ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” อย่างเป็นทางการ

WHO ตั้งชื่อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นทางการ เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกชื่อที่ตั้งทางภูมิศาสตร์แบบเฉพาะเจาะจง

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “โควิด-19” (Covid-19) ย่อมาจาก “coronavirus disease starting in 2019” หรือโรคที่เกิดจากไวรัสโคโรนาที่มีการเริ่มต้นในปี 2019

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/865929?

สำนักฟัตวาอิยิปต์ สั่งห้ามชาวอิยิปต์ ชมหนังซีรีย์อิงประวัติศาสตร์ของตุรกี

ดารุลอิฟตาอฺแห่งอิยิปต์ หรือสำนักให้คำวินิจฉัยทางศาสนาแห่งอียิปต์ได้ออกคำฟัตวา(ศาสนวินิจฉัย) สั่งห้ามชาวอียิปต์ติดตามหนังซีรีย์อิงประวัติศาตร์ของตุรกี 2 เรื่องได้แก่ โอทูรูล คืนชีพคืนแผ่นดิน และ หุบเขาเกรย์วูลฟ์ (Kurtlar Vadisi) โดยให้เหตุผลว่า ประธานาธิบดีแอร์โดอานต้องการปลูกฝังให้ผู้ชมคลั่งไคล้อาณาจักรอุษมานียะฮ์ในอดีต

ดารุลอิฟตาอฺแห่งอียิปต์กล่าวเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีแอร์โดอานพยายามโน้มน้าวให้ประเทศในตะวันออกกลางเชื่อว่า เคยเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของการปกครองยุคอุษมานียะฮ์

นอกจากนี้ดารุลอิฟตาอฺแห่งอียิปต์ได้ให้ข้อมูลว่า ในประเทศเยอรมันมีองค์กรอิสลามกว่า 15 องค์กรที่มีความเชื่อมโยงกับองค์กรอิสลามในประเทศตุรกีพร้อมระบุว่า องค์กรเหล่านี้มีความพยายามจะทำให้สังคมเยอรมันกลายเป็นสังคมอิสลาม ผ่านการเรียนการสอนในโรงเรียน และสถาบันการศึกษาในระดับต่างๆ รวมทั้งการจัดกิจกรรมศาสนาในมัสยิดและศูนย์อิสลามทั่วประเทศเยอรมัน

โอทูรูล คืนชีพคืนแผ่นดิน เป็นหนังซีรีย์อิงประวัติศาตร์การก่อตั้งประเทศตุรกีที่เริ่มต้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยแอร์ทูรูล เป็นผู้วางรากฐานสำคัญให้แก่ลูกชายชื่ออุษมาน ที่ต่อมาได้สถาปนาอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในโลกอิสลามนั่นคืออาณาจักรอุษมานียะฮ์ มีผู้ติดตามทั่วโลกกว่า 3,000 ล้านคน พร้อมได้รับการแปลภาษาหลายสิบภาษาทั่วโลก

เป็นที่น่าสังเกตว่าดารุลอิฟตาอฺแห่งอิยิปต์ไม่ค่อยแตะต้องหนังซีรีย์ที่แสดงความรุนแรง ชู้สาวและการแสดงที่มีเนื้อหาขัดแย้งกับหลักการศาสนาโดยเฉพาะหนังซีรีย์ที่ฉายทั่วประเทศในช่วงเดือนรอมฎอนทุกปี

อ้างอิง http://mubasher.aljazeera.net/news/%D8%A7%D9%84%D8%A5%D9%81%D8%AA%D8%A7%D8%A1-%D8%A7%D9%84%D9%85%D8%B5%D8%B1%D9%8A%D8%A9-%D8%AA%D8%AD%D8%B0%D8%B1-%D9%85%D9%86-%D9%85%D8%B4%D8%A7%D9%87%D8%AF%D8%A9-%D9%82%D9%8A%D8%A7%D9%85%D8%A9-%D8%A3%D8%B1%D8%B7%D8%BA%D8%B1%D9%84-%D9%88%D9%88%D8%A7%D8%AF%D9%8A-%D8%A7%D9%84%D8%B0%D8%A6%D8%A7%D8%A8?fbclid=IwAR1aS4jQuymZLx6VvfMUwOmOMYHzxdAEFpH_cpTCKfD4OK5eOBJWpz4NAuE

สมาชิกรัฐสภาทั่วโลก ร่วมสัมมนาเครือข่ายสมาชิกรัฐสภาเพื่ออัลกุดส์ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์

กัวลาลัมเปอร์, 8 กุมภาพันธ์ 2563 สมาชิกรัฐสภาโลกและผู้แทนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกกว่า 500 คน ร่วมสัมมนานานาชาติครั้งที่ 3 “เครือข่ายสมาชิกรัฐสภาเพื่ออัลกุดส์” ระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ One World Hotel, Petaling Jaya,KL, Malaysia.

Said Ibrahim Said Nuh ประธานจัดสัมมนากล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้สอดคล้องกับช่วงจังหวะที่ประเทศมาเลเซียและองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี ได้ประกาศจุดยืนปฏิเสธแผนสันติภาพทรัมป์ที่ประกาศยกปาเลสไตน์ให้แก่อิสราเอล หรือที่เป็นที่รู้จักในนาม”ข้อตกลงแห่งศตวรรษ” (Deal of the Century)

“ในฐานะเจ้าภาพจัดสัมมนาครั้งที่ 3 และครั้งแรกของประเทศมาเลเซีย เราต้องขอขอบคุณที่มาเลเซียได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสดีเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เพื่อหามาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวปาเลสไตน์อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” Said Ibrahim Said Nuh กล่าว

ดร. ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการมุสลิมศึกษาสถาบันเอเชียศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในนักวิชาการจากประเทศไทยที่เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้ได้เขียนใน Facebook ส่วนตัว เล่าบรรยากาศตอนเปิดพิธีโดย ตุน ดร. มหาเธร์ โมฮัมมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานในพิธีเปิด ว่า

“มานั่งฟัง “พี่ใหญ่” แห่งอาเซียนพูดถึงสถานการณ์ปาเลสไตน์ หลังทรัมป์เปิดเผยแผนสันติภาพตะวันออกกลาง หรือ Deal of the Century ท่านกล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่มีอะไรหรอก แค่ผู้นำสหรัฐอเมริกาชอบทำเรื่องผิดกฏหมายให้เป็นเรื่องถูกกฏหมาย หรือ “Legalize the illegal”

ดร. ศราวุฒิ อารีย์ ได้ยกคำพูดของนายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียด้วยข้อความภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความหมายว่า

“แผนสันติภาพนี้ เป็นการยอมรับการยึดครองของอิสราเอล แต่เพิกเฉยต่อสิทธิของชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกกดขี่”
————–
ตุน ดร. มหาเธร์ โมฮัมมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

นายแพทย์อนันตชัย ไทยประทาน รองประธานสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี เปิดเผยว่า เครือข่ายสมาชิกรัฐสภาเพื่ออัลกุดส์ ก่อตั้งเมื่อปี 2016 มีสมาชิกรัฐสภาทั่วโลกกว่า 70 ประเทศเป็นสมาชิก มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือสมาชิกรัฐสภาทั่วโลก ในการปกป้องกันอัลกุดส์ ช่วยเหลือปัญหาปาเลสไตน์ต่อต้านการยึดครอง และแผนการสถาปนาอัลกุดส์ให้เป็นเมืองยิว ตลอดจนแก้ไขปัญหาการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนที่อัลกุดส์และปาเลสไตน์

“ขอขอบคุณเครือข่ายสมาขิกรัฐสภาเพื่ออัลกุดส์และขอชื่นชมรัฐบาลมาเลเซียที่แสดงความจริงใจปกป้องอัลกุดส์และชาวปาเลสไตน์ด้วยความมุ่งมั่นมาโดยตลอด ในนามสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี จะนำประสบการณ์จากการสัมมนาครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับประเทศ ในการทำหน้าที่ปกป้องอัลกุดส์ต่อไป” นายแพทย์ อนันตชัย ไทยประทานกล่าวทิ้งท้าย

ข่าวด่วน! กราดยิงโคราช เสียชีวิตหลายราย

เกิดเหตุทหารคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงผู้บังคับบัญชาพร้อมแม่ยายของผู้บังคับบัญชาเสียชีวิต ที่นครราชสีมา จากนั้นได้ขับรถไปยังคลังอาวุธภายในค่ายทหาร ก่อนขับฮัมวี่พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมากหลบหนีเข้าตัวเมือง และระหว่างทางได้ใช้อาวุธที่ขนมากราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมาและตำรวจที่เข้าระงับเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จากนั้นหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช

ที่มา : https://www.bbc.com/thai/thailand-51426918

Cr.สํานักข่าวไทย TNAMCOT
Cr. Thairath
Cr. matichon tv