FTUConvo18 [EP.1]

#FTUConvo18

เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมพิธีประสาทปริญญา ผู้สำเร็จการศึกษา ม.ฟาฏอนี ร่วมกับกรรมการสภามหาวิทยาลัย ทั้งในและต่างประเทศ

(3 กันยายน 2566) ที่ห้องประชุมวันมูหะมัดนอร์ มะทา มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมพิธีประสาทปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ครั้งที่ 18 ประจำปีการศึกษา 2565 โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี เป็นประธานในพิธี และมี รองศาสตราจารย์ ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี คณาจารย์ หัวหน้าส่วนราชการและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ด้วย

สำหรับมหาวิทยาลัยฟาฏอนี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนอิสลามแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการสถาปนาขึ้นโดยนักวิชาการมุสลิมและผู้ทรงคุณวุฒิด้านอิสลามศึกษาในภูมิภาค มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมพัฒนาอิสลามศึกษาและการศึกษาศาสตร์แขนงต่างๆให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม การมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และการพัฒนาภูมิภาค เพื่อเป็นกลไกสำคัญที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการมาแล้ว 25 ปี มีนักศึกษาจากประเทศต่างๆมาแล้วจำนวนมากกว่า 40 ประเทศ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยฟาฏอนีได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ในมิติต่างๆ ซึ่งความสำเร็จในวันนี้มาจากความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนทั้งเอกชน และรัฐบาล ทั้งในและต่างประเทศ มีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ความสามารถด้านต่างๆ มาร่วมเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย เพื่อช่วยชี้แนะร่วมกำหนดนโยบาย ทิศทางในการพัฒนามหาวิทยาลัยอีกด้วย

เครดิต :  ข่าว ศอ.บต.


ทีมข่าว theustaz.com

ขอแสดงความยินดีแด่ศิษย์จากศูนย์อิสลามปางสา จบป.ตรี มหาวิทยาลัยฟาฏอนี

♥️ขอแสดงความยินดีที่ ศิษย์จากศูนย์ได้จบระดับป.ตรี  

    มาอยู่ตั้งแต่ ป.1 จากตัวเล็กๆไม่รู้อิสลาม มาวันนี้ จบอิสลามศึกษา

   📌ศูนย์อิสลามบ้านปางสา

ทำงานกะวะห์มา 30 กว่าปี ดะวะห์ จากเด็กดอยที่ไม่รู้จักอิสลาม จนสามารถใช้ชีวิตแบบอิสลาม 100%

    อินซาอัลลอฮ.ศูนย์จะทำงานดะวะห์พร้อมพี่น้อง เพื่อให้เด็กดอยมีโอกาส ได้เรียนและเป็นอิสลามที่ดี

#ทุกวันนี้ ทางศูนย์ทำหน้าที่ดะวะห์ แทนพี่น้องในจังหวัดเชียงราย ไปรับเด็กกำพร้า ยากจน มาดูแล จากดอยต่างๆ

#ขอบคุณพี่น้อง ที่ร่วมเดินทางมา 30 กว่าปี ที่ค่อยสนับสนุนการทำงานของเรา 

#พวกเราพร้อมทำงาน ดะวะห์ไปกับพี่น้องทุกๆท่าน

#เด็กในวันนั้น เป็นมุสลิมที่ดีในวันข้างหน้า

#ขอให้อัลลอฮ.ตอบแทน

เครดิต : ศูนย์อิสลามศึกษาบ้านปางสา -Muallaf pangsa

ความในใจ จาก บัณฑิต

ตอนนี้กล้าพูดได้เต็มปากว่า ” สำเร็จแล้ว “

เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัย แบกรับคำดูถูกมากมาย เป็นแรงกดดันที่มันหนักจนแทบอยากทิ้งตัวลง

ก่อนเข้ามหาลัยมีเพียงคนเดียวที่สนับสนุนให้เรียน คือ แม่ แม้ว่าตัวผมเองโกหกแม่ไปว่าไม่อยากเรียนด้วยฐานะเงินจากที่บ้านไม่มีให้ และเเรงกดดันที่หลายๆคนได้บอกมาว่าเรียนไปเพื่ออะไร

ในที่สุดก็ทนความอยากเรียนของตนเองไม่ไหว

ก็เลยลงมาเรียนพร้อมแบกรับแรงกดดันมากมาย ไม่มีใครสักคนที่คอยให้กำลังใจตลอดที่เรียน มีแค่แม่ ที่คอยสนับสนุนในครอบครัว

มีแต่คำดูถูกต่างๆนา เพราะห่วงว่าเรียนไปแล้วไม่มี ทางที่สามารถทำงานได้เพราะไม่มีบัตร ผมเลยได้แต่เก็บทุกๆถ้อยคำไว้กับตัว

จนกระทั่งในวันนี้ที่รับปริญญา เหล่าพี่ได้มาอวยพรและได้บอกว่า ” ดีใจและภูมิใจสุดๆ ที่สามารถทำตามฝันของตัวเองได้ ” พอได้อ่านเท่านั้นน้ำตาไหล สวมกอดแม่มันได้คายปมทั้งหมดที่ผ่านมา แตกแรกที่ทางบ้านไม่สามารถที่จะยอมรับได้ กับวันนี้ที่ภูมิใจใน ตัวผม ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ อยากบอกให้ครอบครัวและแม่ได้รู้ว่าผมรักมากที่สุด #อยากบอกพ่อให้ได้รู้ว่าปมสำเร็จแล้วนะครับถึงแม้วันนี้พ่อไม่อยู่แล้วก็ตาม

#ขอบคุณแม่ #ขอบคุณภรรยา #ขอบคุณคณะอาจารย์ทุกคน #ขอบคุณเพื่อนๆ #ขอบคุณทุกๆคนที่คอยสับสนุน #ขอบคุณตัวเองที่อดทนมาตลอด

วันนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก Alhamdulillah

เครดิต : เฟสบุ๊ค Asan Mayer 


ทีมข่าว theustaz.com

โครงการสร้างการเรียนรู้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันกัญชาแก่เยาวชนบ้านไอกูบู

โครงการสร้างการเรียนรู้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันกัญชาแก่เยาวชนบ้านไอกูบู

เมื่อ 16 เมษายน 2566 กลุ่มเยาวชนเกลียดกัญชา จัดโครงการสร้างการเรียนรู้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันกัญชาแก่เยาวชนบ้านไอกูบู ณ อาคารตาดีกาอัรเราะห์มานียะฮ์ บ้านไอกูบู ม. 1 ต. สุไหงปาดี อ. สุไหงปาดี จ. นราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์ให้เยาวชนตระหนักรู้พิษภัยและอันตรายของกัญชา รู้จักบริหารชีวิตช่วงวัยรุ่น โดยมี นพ.กิ๊ฟลัน ดอเลาะ จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ นราธิวาส เป็นวิทยากรให้ความรู้

#ขอบคุณหมอกิ๊ฟลัน

#ขอบคุณผู้ประสานงาน #และผู้สนับสนุน

#ขอบคุณผู้นำชุมชน

#ขอบคุณกลุ่มเยาวชนเกลียดกัญชา

เอื้อเฟื้อภาพ

https://www.facebook.com/profile.php?id=100066470355822&mibextid=LQQJ4d


โดย ทีมข่าว theustaz.com

มกุฎราชกุมาร-นายกซาอุฯเดินทางถึงไทย ร่วมประชุม เอเปค2565

(ค่ำวันที่ 17 พฤษจิกายน พ.ศ.2565 ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับเสด็จเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง

..

การเสด็จฯ เยือนไทยดังกล่าวของมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นครั้งแรกของการเยือนไทย โดยผู้นำซาอุฯ ในรอบ 32 ปี หลังมีการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีนี้

โดย มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุฯ เสด็จฯ เข้าร่วมการประชุมกับผู้นำเอเปค ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ และจะหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการเสด็จฯ เยือนไทยทางการในช่วงดึกของวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล

ภาพจาก กระทรวงการต่างประเทศ | MFA of Thailand

ภาพจาก กระทรวงการต่างประเทศ | MFA of Thailand
ภาพจาก กระทรวงการต่างประเทศ | MFA of Thailand
ภาพจาก กระทรวงการต่างประเทศ | MFA of Thailand

..

กำหนดการวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 22.00 น.   มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เสด็จฯ ถึงทำเนียบรัฐบาล

– นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ฉายพระรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรี ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

– ลงพระนามในสมุดเยี่ยมของรัฐบาล ณ ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

(อนุญาตช่างภาพสำนักโฆษก ช่างภาพพูลต่างประเทศ ช่างภาพทางการซาอุดีฯ ช่างภาพช่อง 7/การแต่งกายช่างภาพชุดสูทสากล)

เวลา 22.15 น.   การหารือทวิภาคี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล             

เวลา 23.00 น.   นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เสด็จฯ ไปยังโถงกลางตึกสันติไมตรี เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ

เวลา 23.15 น.   งานถวายพระกระยาหารค่ำ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 00.15 น.   นายกรัฐมนตรี ส่งเสด็จ มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ณ จุดเทียบรถยนต์พระที่นั่ง ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล


ทีมข่าว Theustaz

ร่วมยินดี รองฯพาตีเมาะ สะดียามู สตรีมุสลิมคนแรก ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯปัตตานี

.

15 พ.ย.2565 จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงและโยกย้ายข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย รวม 37 ตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด 26 จังหวัด ผู้ตรวจราชการ 11 ตำแหน่ง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

.

ล่าสุดชาวเน็ตจำนวนมาก ได้แสดงความยินดีกับ นางพาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมี “ผู้ว่าฯหญิงมุสลิมคนแรก”

.

สำหรับนางพาตีเมาะ สะดียามู เกิดเมื่อ 19 พ.ย. 2508 เป็นคนบ้านปีซัด หมู่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เริ่มต้นการศึกษาระดับประถมตอนต้น-ตอนปลายที่ ร.ร.วัดลำใหม่ และ ร.ร.พัฒนาวิทยา จ.ยะลา ตามลำดับ ก่อนเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ตอนปลาย ที่ ร.ร.พัฒนาวิทยา จ.ยะลา และ ร.ร.สาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.สงขลา

.

เข้าศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.) ก่อนจะต่อระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาพัฒนาสังคม) สาขา การจัดการการพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

เคยดำรงตำแหน่ง ผช.เลขาธิการ ศอ.บต. (สป.มท.) หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพัทลุง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ก่อนจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

.

นางพาตีเมาะ ถือเป็นสตรีมุสลิมที่มีบทบาทในพื้นที่ ซึ่งทุกภาคส่วนยอมรับและต่างชื่นชมในการทำงาน

.


ขอบคุณข่าว จาก SOUTH : White news

ทีมข่าว Theustaz

เราไม่ทิ้งกัน

นายซอลาฮุดดีน หะยียูโซะ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและเลขานุการสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ได้เขียนในไลน์ส่วนตัวว่า เมื่อบ่ายวันศุกร์ ที่​ 14 ตุลาคม​ 2565​ เวลา​ 13:30 น.​ ณ​ สนามบินหาดใหญ่ และ สนามบินสุวรรณภูมิ​ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

ได้ออกเดินทางไป​ จ.อุดรธานี​ เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมการสังหารหมู่ที่​ จ.หนองบัวลำภู​ และในการเดินทางครั้งนี้ได้จัดการประชุมคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยสัญจรในภาคอีสานพร้อมกันด้วย

เด็กที่เสียชีวิต 26 รายส่วนใหญ่ถูกฟันที่หัวและตามลำตัว ส่วนที่เหลือเป็นผู้ใหญ่ ถูกกระสุนและถูกรถชนและเหยียบ

“คนไทยทุกคน​ ทุกภูมิภาค​ ล้วนเป็นพี่น้องกัน​ ยามสุขเราก็ดีใจด้วยกัน

ยามทุกข์เราเสียใจอย่างสุดซึ้ง เราไม่ทิ้งกัน” พร้อมนี้ ได้มอบเงินเยียวยาแก่ครอบครัวผู้สูญเสียรายละ 10,000 บาททั้ง 46 ราย รวมเงินทั้งสิ้น 460,000 บาท นายซอลาฮุดดีนกล่าวทิ้งท้าย


Credit : ซอลาฮุดดีน หะยียูโซะ

มฟน. จัดพิธีมอบปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์

มหาวิทยาลัยฟาฏอนี จัดพิธีมอบปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ณ ห้องชมัยมรุเชฐ ชั้น 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กรุงเทพมหานคร  ในฐานะผู้ที่มีบทบาทในการสร้างความปรองดองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

..

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ จบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อ ณ โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 1 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 12 โดยสำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2508 และเริ่มต้นรับราชการประจำศูนย์การทหารราบเป็นหน่วยงานแรก หลังเข้ารับราชการทหารได้สอบผ่านหลักสูตรอบรมสำคัญๆ หลายหลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรจู่โจม รุ่นที่ 11 ศูนย์การทหารราบ หลักสูตรชั้นนายร้อยเหล่าทหารราบ หลักสูตรส่งกำลังทางอากาศจู่โจม หลักสูตรชั้นนายพันเหล่าทหารราบจากสหรัฐอเมริกา หลักสูตรเสนาธิการทหารบก รุ่นที่  52 หลักสูตรเสนาธิการทหารบกจากสหรัฐอเมริกา หลักสูตรการบริหารทรัพยากรกระทรวงกลาโหมจากสหรัฐอเมริกา และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ตามลำดับ ตลอดอายุการรับราชการทหารได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆหลายตำแหน่ง ได้แก่  ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุดในที่สุด ระหว่าง พ.ศ. 2545 – 2546 และในปี พ.ศ. 2546 ได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิตโดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 จวบจนปัจจุบัน 

..

นอกจากนี้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังได้รับรางวัล “คนดีของแผ่นดิน” จากมูลนิธิรัฐบุรุษ พ.ศ. 2543 ด้วยเป็นคนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ผืนป่าและเป็นผู้นิยมการเดินป่า จึงได้รับแต่งตั้งเป็นประธานมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นกรรมการ“โครงการสายใจไทยสู่ใจใต้” ริเริ่มโครงการครอบครัวอุปถัมภ์นำเยาวชนมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาอยู่กับครอบครัวมุสลิมในต่างพื้นที่เป็นระยะเวลา 20 วัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีและประสบการณ์ชีวิต

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 24 ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ได้วางยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุข โดยเน้นการพัฒนาคนและครอบครัวให้พึ่งพาตนเองได้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อพบปะและรับฟังเสียงของประชาชนและผู้นำในพื้นที่หลายครั้ง เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นผู้ยึดมั่นถือมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต บริหารกิจการกองทัพและชาติบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม ถือมั่นในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ฝักใฝ่ไม่เลือกข้างในการปฏิบัติงาน บุคลิกภาพสุขุม ใฝ่สันติ ดำรงไว้ซึ่งคุณสมบัติการเป็นผู้นำที่ดี นำพาชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆมาได้ด้วยดี ทั้งวิกฤตการเมือง ภัยคุกคามจากยาเสพติด และการกัดกร่อนจากภัยก่อการร้าย เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ สภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้รับปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป


CR : FB Zakariya Hama

พิธีประสาทปริญญา ครั้งที่ 17 มหาวิทยาลัยฟาฏอนี

(วันอาทิตย์ ที่ 4 กันยายน 2565) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญาครั้งที่ 17 โดยมีรศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดี รองอธิการบดี คณะผู้บริหาร คณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการอุดมศึกษาอิสลามภาคใต้ บัณฑิตและผู้ปกครองร่วมให้การต้อนรับ

นายกสภามหาวิทยาลัยกล่าวคำโอวาทแก่บัณฑิตความตอนหนึ่งว่า “บรรดาการสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เป็นวันแห่งการชุมนุมยินดีความสำเร็จของท่านทั้งหลายที่ได้ใช้ความพยายามในการบ่มเพาะความรู้และหล่อหลอมตนเองตามแนวทางการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยฟาฏอนีที่มุ่งเน้น “การสร้างชีวิตก่อนอาชีพ” การศึกษาที่พัฒนาและเติมเต็มชีวิตตามเจตนารมณ์ของผู้ทรงสร้างมนุษย์และผู้ส่งสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้สู่ทางนำแห่งความสำเร็จของพระองค์นั่นคือ “อัลกุรอาน”

รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา กล่าวรายงานผลการดำเนินการตามภารกิจหลักของสถาบันว่า ปัจจุบันมหาวิทยาลัยฟาฏอนี เปิดสอนในระดับปริญญาเอก 2 หลักสูตร ระดับปริญญาโท 5 หลักสูตร ระดับประกาศษนียบัตรบัณฑิต 1 หลักสูตรและระดับปริญญาตรี 21 หลักสูตร รวมทั้งสิ้น 29 หลักสูตร  โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาครั้งนี้ทั้งสิ้น  1,831 คน

พิธีประสาทปริญญาครั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยมีมติมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเงินและการธนาคารให้แก่ Tan Sri Dr. Mohd Daud Bakar ประธานที่ปรึกษาชะรีอะฮ์ ธนาคารแห่งชาติมาเลเซีย ผู้ก่อตั้ง Amanie Advisors อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติแห่งมาเลเซีย (IIUM) มอบโล่ Alim Rabbani (ผู้ทรงภูมิความรู้ดีเด่น) ให้แก่ Dr. Salim Seqaf Al-Jufri รองประธานสภาชะรีอะฮ์แห่งชาติ – สภาอุลามาอฺอินโดนีเซีย (Dewan Syariah Nasional -Majelis Ulama Indonesia ) มอบโล่ Tokoh Berjasa (ผู้สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมดีเด่น ให้แก่ กระทรวงศาสนสมบัติและกิจการอิสลามประเทศกาตาร์ และอุสต้าซอับดุลลอฮ์ อาเก็ม ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยอันดามันอานาโตเลียน ผู้รับใบอนุญาตและผู้อำนวยการโรงเรียนธรรมศาสน์วิทยาจังหวัดสตูล

الحمد لله الذي بنعمته تتم الصالحات

تهانينا وتبريكاتنا للخريجين


โดย Mazlan Muhammad

บรรยากาศละหมาดอีดฟิตรีย์ 1443 ฮ.​ ณ เทศบาลเมืองนราธิวาส

เมื่อ(2 พฤษภาคม 2565) ซึ่งเป็นวันฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี ประจำปี  ฮ.ศ. 1443 เทศบาลเมืองนราธิวาส โดยนายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรี ร่วมกับกลุ่มอิสลามนรา จัดพิธีละหมาดอิดิ้ลฟิตรี ณ สนามกีฬาเทศบาลเมืองนราธิวาส  เริ่มตั้งแต่เวลา 07.30 น.  เป็นต้นไปซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่พิธีละหมาด นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมละหมาด  ซึ่งมีจำนวนเกือบ 2,000 คน

.

โดยการละหมาดในครั้งนี้มีอิหม่ามเชค รอมี จากประเทศอียิปต์ เป็นผู้นำละหมาด  โดยอ่านอัลกุรอานตามกิรออาตอัลกิสาอีย์ หนึ่งในกิรออาตที่มีสายรายงานที่ถูกต้องจากนบี และ ผศ.มัสลัน มาหะมะ จากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี  เป็นผู้อ่านคุฏบะห์ ในหัวข้อ “บทบาทผู้นำต่อการพัฒนาสังคม” โดยได้ยกบทบาทของผู้นำที่ปรากฏในซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟีเป็นกรณีศึกษา ซึ่งผู้นำในทุกระดับชั้นต้องทำความเข้าใจบททดสอบ 4 ประการ คือ 1) บททดสอบด้านอะกีดะฮ์  ตามเรื่องราวของกลุ่มเยาวชนชาวถ้ำ 2) บททดสอบด้านทรัพย์สินและลูกหลาน ตามเรื่องราวของเจ้าของสวน 2 แก่ง  3) บททดสอบด้านความรู้ ตามเรื่องราวของนบีมูซาและคิฎิร์ และ4) บททดสอบด้านอำนาจและการบริหารตามเรื่องราวของซุลก็อร์นัยน์

สำหรับการละหมาดในวันนี้เทศบาลได้ดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยให้ผู้ร่วมละหมาดทุกคน สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิและลงทะเบียนก่อนเข้างาน เว้นระยะห่าง และใช้ผ้าละหมาดของตนเอง  โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดงาน ซึ่งหลังจากละหมาดและรับฟังคุฏบะห์แล้ว นายกเทศมนตรีพร้อมคณะได้มอบซากาตและจัดเลี้ยงอาหารให้แก่เด็กๆ  นอกจากนั้นภายในงานยังได้จัดสถานที่จุดเช็คอินเพื่อให้ผู้ร่วมละหมาดได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย บรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างชื่นมื่นต่างก็ได้พบปะ ขอมาอัฟต่อกัน (ให้อภัยกัน) ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

.

ขอบคุณ เทศบาลเมืองนราธิวาส

วิดีโอละหมาดและคุตบะฮฺอีด

https://www.facebook.com/islamnarathiwat/videos/366057342134747


ทีมข่าว theustaz

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ด้านวิชาการ” ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี และ ศอ.บต.

วานนี้ (9 เมษายน 2565) ที่ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านวิชาการ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)โดยมีนางอารยา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี และพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ตามโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ From Gen Z to be ceo (ภาคใต้)

ในการนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภายใต้โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO             ของกระทรวงพาณิชย์ที่ตนได้มอบนโยบายให้ดำเนินการมาโดยต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 – 2565 ปั้น GenZ เป็น CEO ไปแล้วจำนวนมาก ซึ่ง Gen Z ต่างจากรุ่นตนและ Gen X Gen Y เพราะส่วนใหญ่ จบการศึกษาไปแล้วหลายคนอยากเป็นนายตัวเอง ซึ่งก็ต้องมีธุรกิจหรือกิจการของตนเอง จึงเป็นที่มาของนโยบายปั้น Gen Z ให้เป็น CEO จึงตั้งเป้าเตรียมปั้นนักศึกษาชั้นปี 3-4 ที่สนใจ เมื่อจบไปแล้วจะได้ไปเป็นนายตนเองทำธุรกิจเป็น CEO ให้กับกิจการของตัวเองได้ 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการร่วมลงนาม MOUกับสถาบันการศึกษาทุกภาคทั่วประเทศ 94 สถาบัน จบหลักสูตรไปแล้ว 21,000 คน และปี 2565 ตั้งเป้าจะทำให้ได้ 20,000 คน ภายในปีเดียวและในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน สำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่เป็น CEO Gen Z ปกติแต่จะปั้นเป็น CEO ฮาลาล ซึ่งจะมีทั้งสินค้าและบริการรวมทั้ง Soft Power ของจังหวัดชายแดนใต้ที่จะเป็นจุดขาย ทำให้ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจการค้าได้ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ทั้งเรื่องความมั่นคง การศึกษา เศรษฐกิจ เชื่อว่าจะเป็นโครงการที่ช่วยสนองตอบการช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจให้กับพี่น้องโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างตรงประเด็นที่สุดและสนองตอบต่อนโยบายเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การสมัครเข้าร่วมโครงการ จะมีการอบรมใช้เวลาเต็มวันประมาณ 5 ครั้ง หลังจากนั้นจะมีการฝึกงานจริงหลักสูตรที่เรียน เช่น การบริหารจัดการธุรกิจยุคใหม่ การบริหารจัดการการส่งออก ความรู้การส่งออกเบื้องต้น การวิเคราะห์การตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การบริหารจัดการสตาร์ทอัพ การเอา Soft Power ศิลปะวัฒนธรรมประเพณีของคนจังหวัดชายแดนใต้ผสมผสานเป็นจุดขายให้กับสินค้าและการบริการที่สามารถสร้างความเป็นอัตลักษณ์ เอกลักษณ์เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและทรัพย์สินทางปัญญาได้ต่อไปในอนาคต รวมถึงการทำแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าบริการในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเรื่องอีคอมเมิร์ซ สินค้าและบริการแห่งอนาคต ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก จะได้มีพื้นความรู้ในการเป็นนายของตัวเองอย่างมีศักยภาพ ถือเป็นการนำรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัว และประเทศถ้าส่งออกต่อไปได้ โดยตั้งเป้าว่าอย่างน้อยจังหวัดชายแดนใต้ จะทำให้ได้ 1,000 คน” อย่างแน่นอน

สำหรับการดำเนินโครงการ From Gen Z to be CEO กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ สถาบัน NEA (New Economy Academy) จัดทำหลักสูตรเพื่อบ่มเพาะความรู้และสร้าง Mindset ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนเจเนอเรชั่นซี(Gen Z) เพื่อสร้างให้เป็นแม่ทัพทางการค้าของประเทศในอนาคตภายใต้โครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (From Gen Z to be CEO) ให้สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศจากทั้งผู้ประกอบ ธุรกิจที่มีประสบการณ์การส่งออกโดยตรง และในปี 2565 สถาบัน NEA ได้ขยายความร่วมมือกับอีก 2 มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยฟาฏอนี จังหวัดปัตตานี เพื่อขยายโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในส่วนภูมิภาคต่อไป


เครดิตข่าว : เพจข่าว ศอ.บต.