Harun Yahya ซาตานในคราบนักเผยแพร่ศาสนาถูกตัดสินเข้าคุกกว่า 1,000 ปี

จันทร์ที่ 11 มกราคม 2021 ศาลตุรกีได้พิพากษาลงโทษจำคุก นายอัดนาน โอกตาร์ หรือที่รู้จักในนาม ฮารูน ยะห์ยา 1,075 ปี ในความผิดฐานต่างๆส่วนหนึ่งคือก่ออาชญากรรมทางเพศ

เช่นเดียวกันกับบรรดาสาวกของเขาอีก 236 คนโดยในจำนวนนี้มี 78 คนที่ถูกจับกุมแล้ว และถูกตัดสินคดีตามความผิดในข้อหาต่างๆเช่นแอบอ้างศาสนาและความเชื่อเพื่อการฉ้อโกง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หลอกลวง บั่นทอนความมั่นคงของประเทศและก่อการร้าย

นายอัดนาน โอกตาร์ ถูกตำรวจจับกุม เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ในข้อหาก่อตั้งองค์กรอาชญากรรม ล่อลวงเด็ก ทำอนาจาร เป็นสายลับทางการเมืองและการทหาร แอบอ้างศาสนาเพื่อหลอกลวง กระทำก่อการร้าย บั่นทอนความมั่นคงของชาติ และพัวพันกับกลุ่มสายลับโมสาด อิสราเอล

นายอัดนาน โอกตาร์ อ้างตัวตนเป็นนักคิดและนักเผยแพร่อิสลามได้สร้างข้อกังขาในสังคมตุรกีและโลกอิสลามด้วยแนวคิดและการปฏิบัติที่ขัดแย้งกับหลักคำสอนอิสลาม เขาเคยประกาศตนเองเป็นอิมามมะฮ์ดีและยังสนับสนุนรัฐเถื่อนอิสราเอลอย่างหัวชนฝา

เขาเป็นผู้ดำเนินรายการในสถานีโทรทัศน์ช่อง A9TV ซึ่งรัฐบาลได้สั่งปิดแล้ว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเผยแพร่รายการที่ฝ่าฝืนคำสอนอิสลาม โดยเฉพาะในรายการที่เขาออกอากาศพร้อมดารานักแสดงหญิงที่แต่งตัวโป๊เปลือยในวงเหล้า โดยเขาอ้างว่า กำลังเผยแพร่ศาสนาให้พวกนาง

นายอัดนาน โอกตาร์ นักวิชาการศาสนาแนวคิดวิปลาส ผู้ใช้คำสอนอิสลามเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ของตนและมีแผนร้ายต่อความมั่นคงของชาติ มีหลักฐานพัวพันและสนิทสนมกับองค์กรต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มสายลับโมสาด อิสราเอล

นายอัดนาน โอกตาร์ หนึ่งในกระบอกเสียงผู้เชิญชวนผู้คนสู่นรกญะฮันนัม บัดนี้เขาถูกตัดสินคดีบนโลกนี้แล้ว ก่อนการพิพากษาจากศาลแห่งอัลลอฮ์ในวันแห่งการพิพากษา เขาและบรรดาสาวกจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม หากเขาไม่กลับเนื้อกลับตัวสู่การเป็นผู้ศรัทธาโดยแท้จริง


โดยทีมข่าวต่างประเทศ

bip แอพใหม่จากตุรกี

Turkcell บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำของตุรกี ตั้งอยู่ในนครอิสตันบูลประเทศตุรกี ผลิตโปรแกรมส่งข้อความBiP สำหรับโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ซึ่งมีความปลอดภัยและไม่ต้องเสียค่าบริการ BiP ยังรองรับการส่งเสียง วิดีโอ ประชุมออนไลน์และสามารถแปลภาษาได้ 106 ภาษาด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง

Turkcell เปิดเผยว่าบริษัทเริ่มเปิดใช้ให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2564 โดยหลังจากเปิดบริการเพียงสองวันมีผู้สมัครรับบริการแล้วทั่วโลกกว่า 2 ล้านราย

ผู้บริหาร Turkcell กล่าวว่า เราเปิดบริการโปรแกรมนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการติดต่อสื่อสารด้วยโปรแกรม WhatsApp ที่วางเงื่อนไขมากมายแก่ผู้บริการ ทำให้มีข้อจำกัดต่างๆ BiP จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใข้บริการที่ต้องการความสะดวกและการติดต่ออย่างไร้จำกัด

Download
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.turkcell.bip&hl=th&gl=US
Apple : https://apps.apple.com/us/app/bip-messenger-video-call/id583274826

สหรัฐฯกลียุค กรรมาธิการตุลาการจี้ปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่งปธน.

นับเป็นวันมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกา เมื่อม็อบสนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา ขวางสภาคองเกรสรับรองไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม 2021

รองปธน.ไมค์ เพนซ์ ประณาม บอกเป็นวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะสภาคองเกรสกลับมาประชุมต่อ รับรองไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว

ในขณะที่กรรมาธิการฝ่ายตุลาการสหรัฐฯออกโรงจี้ให้สภาคองเกรสมีคำสั่งปลดทรัมป์พ้นตำแหน่งประธานาธิบดี อ้างเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

นายชาร์ก ชูเมอร์ ประธานกรรมาธิการตุลาการแห่งสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกากล่าวว่า หลังจากนี้เป็นต้นไป ทรัมป์ไม่มีความชอบธรรมดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแม้แต่วันเดียว พร้อมระบุจะดำเนินคดีทรัมป์หากรัฐบาลไม่ปลดเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี โดยใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 เปิดทางโอนอำนาจให้รองประธานาธิบดีไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือตลอดไป

บทบัญญัติดังกล่าว อนุญาตให้รองประธานาธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีได้ หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เช่น เมื่อประธานาธิบดีอยู่ในสภาพเป็นบุคคลไร้ความสามารถเนื่องจากอาการป่วยทางกายหรือทางจิต  ซึ่งจะต้องอาศัยเสียงส่วนมาก 2 ใน3 ทั้งจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานาธิบดีจะเป็นผู้ทำหน้าที่ประธานาธิบดี ไปจนกว่าจะได้ข้อสรุป

ในขณะเดียวกัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นางแนนซี่ เพโลซี่ ระบุทรัมป์อันตรายต่อประเทศของเรา และเราไม่จำเป็นต้องมอบหมายให้เขายุยงกลุ่มผู้สนับสนุนเขาอีกต่อไป

ในขณะที่ นายคริสต์ เวนโฮลัน สมาชิกวุฒิสภาฯ เรียกร้องให้ปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะการมีอำนาจของเขาเปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่ทำลายความมั่นคงของประเทศ เขายังระบุว่า ทรัมป์ได้ละเมิดสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์ และจมเป็นต้นเหตุให้เกิดความรุนแรงและโกลาหล ทำให้เกิดการสูญเสียด้านจิตวิญญาณ

ส่วนนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นายโมเรล บาวเซอร์เรียกร้องให้ลงโทษทรัมป์และกลุ่มผู้สนับสนุนที่ก่อจลาจลครั้งนี้ เขายังระบุว่าเป็นการโจมตีของก่อการร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา พร้อมได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเวลา 15 วัน จนถึงวันที่โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคม 2021 นี้

ทางด้านแกนนำรัฐบาลหลายคน ได้ชิงลาออกจากตำแหน่ง เพื่อประท้วงการตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้


อ้างอิง

https://www.aljazeera.net/news/politics/2021/1/7/%D8%B9%D9%82%D8%A8-%D8%A7%D9%84%D8%AA%D8%B5%D8%AF%D9%8A%D9%82-%D8%B9%D9%84%D9%89-%D8%A8%D8%A7%D9%8A%D8%AF%D9%86-%D8%A7%D8%B3%D8%AA%D9%82%D8%A7%D9%84%D8%A7%D8%AA-%D9%81%D9%8A?fbclid=IwAR0WSSKTFTiJoRB0_jkTNzMMqPrmwGv9p0FPWKKq1jat_X5ZCkB8c25Elkw

โดย ทีมข่าวต่างประเทศ

ผู้ประท้วงบุกระงับการประชุมรับรองผลการเลือกตั้งอเมริกา

ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ หลายหมื่นคน  รวมตัวกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา 6/1/2021 ในบริเวณใกล้เคียงทำเนียบขาว เพื่อเรียกร้องให้มีการทบทวนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งโจไบเดนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตเป็นผู้ชนะ

จากนั้นผู้ประท้วงมุ่งหน้าไปยังอาคารรัฐสภา ในเวลาที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังประชุมร่วมกับวุฒิสภา ที่จัดประชุมร่วมกันเพื่อรับรองผลการลงคะแนนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี  ผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในอาคาร ซึ่งนำไปสู่การระงับการประชุมและความโกลาหลวุ่นวายและการจลาจล


รูปภาพจาก TRT عربي

โดย ทีมข่าวต่างประเทศ

รัฐบาลตุรกีประณามอ่านอัลกุรอานด้วยภาษาตุรกี

นายฟัครุดดีน อัลทูน ผู้อำนวยการสำนักงานการสื่อสารสำนักประธานาธิบดีแห่งตุรกี ประณามการอ่านอัลกุรอานด้วยภาษาตุรกีในงานที่จัดโดยสำนักงานเทศมนตรีประจำกรุงอิสตันบูล เมื่อวันจันทร์ที่ 21/12/2020 โดยกล่าวว่า “ตุรกีไม่มีทางหวนกลับสู่อดีตอันมืดมนอีกแล้ว”

นายฟัครุดดีน กล่าวว่า การอ่านด้วยภาษาตุรกีสื่อความหมายที่ห่างไกลกับแกนภาษาอาหรับ ทุกคนไม่สามารถกระทำสิ่งนี้ด้วยข้ออ้างการเปิดใจกว้าง

สำนักงานเทศมนตรีประจำกรุงอิสตันบูล โดยนายอักร็อมอิมาม โอฆลู นายกเทศมนตรีนครอิสตันบูลในนามพรรคประชาชนสาธารณรัฐ ได้จุดกระแสความไม่พอใจให้แก่ชาวตุรกีทั่วประเทศด้วยเปิดพิธีอ่านอัลกุรอานในภาษาตุรกี ในงานคล้ายวันครบรอบ 747 ปีแห่งการเสียชีวิตของชัยค์ญะลาลุดดีน อัรรูมี ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “ เมาลานา” ในงานดังกล่าวยังมีการอาซานด้วยภาษาตุรกีและมีการปะปนระหว่างชายหญิงอย่างอิสระอีกด้วย

นายนูฮ์ อัลเบรัก นักเขียนตุรกีกล่าวว่าพรรคประชาชนสาธารณรัฐคือภาพแห่งความสะพรึงกลัวของอิสลามที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผู้ที่เลือกสนับสนุนนายอักร็อม อิมามโอฆลูหลังจากที่เขาอ่านซูเราะฮ์ยาซีนที่มัสยิดอัยยูบ ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งคราวก่อน พวกเขาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำอันน่าละอายนี้

 มุร็อด บาร์กาซี นักประวัติศาสตร์ตุรกีเขียนบทความตอนหนึ่งว่า เราเคยชินกับพิธีการที่เป็นการดูถูกเมาลานาในรูปแบบต่างๆมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ในรอบ 747 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยถูกหยามเหยียดถึงขนาดนี้ ทุกคนต้องให้เกียรติประเพณีอันดีงามที่บรรพบุรุษของเราได้ปฏิบัติเป็นธรรมเนียมอยู่แล้วแต่ไม่จำเป็นต้องดูหมิ่นศาสนาถึงระดับนี้

ชาวตุรกีมีความทรงจำที่ปวดร้าวกับอาซานด้วยภาษาตุรกี ซึ่งทำให้พวกเขารำลึกถึงยุคมืดของชาติตุรกีในปี 1932  อันเป็นปีแรกที่มีการห้ามอะซานด้วยภาษาอาหรับ และในปี 1941 ประธานาธิบดี อิศมัต อิโนโน ทายาทของนายเคมาล อะตาร์เตอร์กได้ออกกฏหมายสั่งห้ามประชาชนทั่วประเทศตุรกีอาซานด้วยภาษาอาหรับ ชาวตุรกีถูกบังคับอาซานด้วยภาษาตุรกีเป็นเวลานานถึง 18 ปีจนกระทั่งเมื่อปี 1950 นายกรัฐมนตรีนายอัดนาน แมนเดรีส ได้อนุญาตให้อาซานเป็นภาษาอาหรับอีกครั้งตราบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนายแมนเดรีส ถูกทหารก่อปฏิวัติและลงโทษด้วยการแขวนคอในปี 1961 แมนเดรีสได้รับฉายาจากชาวตุรกีเป็นซะฮีดแห่งอาซาน

ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นเพราะบรรดาแกนนำพรรคประชาชนสาธารณรัฐได้รณรงค์ให้ชาวตุรกีอาซานและอ่านอัลกุรอานด้วยภาษาตุรกีมาแล้วในปี 2018 โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ชาวตุรกีมีความเข้าใจเนื้อหามากขึ้น ทั้งนี้พวกเขาเห็นว่า การอ่านอัลกุรอานและอาซานด้วยภาษาอาหรับ ถือเป็นการดูถูกภาษาตุรกี ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ


อ้างอิงจาก

https://m.arabi21.com/Story/1323255?fbclid=IwAR06CYm4dIufYDD_SBzBi57IiHQzX6DWjIa2m4d4n4-k1fG0Ss_FT1Q6GVo

https://www.turkpress.co/node/76424?fbclid=IwAR3mY4zNyMWlWGvVDqR0HAt2bXDMMxaRbwGHNIm3qd6IojM1tsR13iIBHvQ

โดยทีมงานต่างประเทศ

ตาปลอม ( Eye Prosthesis ) ชาวกาซ่า

ทันตแพทย์ชาวกาซ่า ปาเลสไตน์สามารถผลิตตาปลอมชนิดทำเฉพาะบุคคล ( Customized Eye Prosthesis ) ที่ใกล้เคียงกับตาอีกข้าง โดยมีการลงสีตาขาว ตาดำ เส้นเลือด ให้มีรายละเอียดคล้ายตาจริงอีกข้างของผู้ป่วยให้มากที่สุด สามารถขัดเคลือบและทำความสะอาดได้ และมีขนาดที่พอดีกับร่องลูกตาของผู้ป่วย

การใส่ตาปลอมให้ผู้ป่วยนั้น ถึงแม้ไม่สามารถช่วยในการมองเห็นได้ แต่เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วย กลับไปยืนในสังคมได้อย่างมั่นใจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยได้มาก

นพ. อิยาด อัลฮุลัยส์ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาตาที่กาซ่าเปิดเผยว่า การใส่ตาปลอมมีความสำคัญต่อผู้ป่วยมากเพราะจากคนที่มีปมด้อยในสังคม ทำให้สามารถสร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติทั่วไป “เราสามารถผลิตตาปลอมที่ได้มาตรฐานสากลและเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ป่วยที่สูญเสียตาโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กและวัยรุ่นซึ่งเป็นพลังสำคัญของสังคม นพ. อิยาดกล่าว

นายรานี อายุ 15 ปี ผู้สูญเสียลูกตาข้างซ้ายเนื่องจากโดนกระสุนปืนของทหารยิวเมื่อปี 2019 กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับโอกาสใส่ตาปลอม เพราะตนและครอบครัวไม่สามารถใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ เช่นเดียวกันกับ ดช. อาห์มัด ที่สูญเสียลูกตาข้างหนึ่งเนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดของทหารยิวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

TIKA (Turkish Cooperation and Coordination Agency – สำนักงานความร่วมมือและประสานงานแห่งตุรกี) ได้สนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายใส่ตาปลอมแก่ชาวปาเลสไตน์จำนวน 10 ราย โดยค่าใช้จ่ายผลิตตาปลอมต้องใช้งบประมาณ 1,000 ดอลล่าร์ต่อลูกตา

หวังว่า ในอนาคตอันใกล้ พี่น้องจากประเทศไทยสามารถมีส่วนร่วมมอบตาปลอมให้พี่น้องชาวกาซ่า ปาเลสไตน์ได้เช่นเดียวกัน إن شاء الله


โดย ทีมข่าวต่างประเทศ

ชาวฝรั่งเศสไม่พอใจผลงานของมาครง

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศฝรั่งเศสแถลงผลการประเมินผลงานของรัฐบาลนายมาครง ปรากฏว่าชาวฝรั่งเศสเกือบ 60 % ไม่พอใจผลงานของประธานาธิบดีมาครง

ผลการสอบถามผ่านอินเตอร์เน็ตโดยมีผู้ให้คำตอบ 1,936 คน ปรากฏว่า นายมาครงซึ่งกำลังถูกกักบริเวณ เนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 มีคะแนนความไม่พอใจของประชาชนลดลงถึง 38% ช่วงเดือนธันวาคมนี้

ผลการประเมินกรณีความพึงพอใจของประชาชนต่อการเเก้ปัญหาโควิด-19

ปรากฏว่าชาวฝรั่งเศสเง 7 ใน 10 คน ไม่เชื่อมั่น นอกจากนี้ชาวฝรั่งเศสมีความเห็นว่ารัฐบาลที่นำโดยนายมาครงไม่สามารถแก้วิกฤติโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อ้างจาก

https://www.trtarabi.com/now/%D8%A7%D8%B3%D8%AA%D8%B7%D9%84%D8%A7%D8%B9-%D8%B1%D8%A3%D9%8A-60-%D9%85%D9%86-%D8%A7%D9%84%D9%81%D8%B1%D9%86%D8%B3%D9%8A%D9%8A%D9%86-%D8%BA%D9%8A%D8%B1-%D8%B1%D8%A7%D8%B6%D9%8A%D9%86-%D8%B9%D9%86-%D8%A3%D8%AF%D8%A7%D8%A1-%D9%85%D8%A7%D9%83%D8%B1%D9%88%D9%86-3899190?fbclid=IwAR1G99-HGnBaSsnDJedQONGgreSpNvYwAhTZ93XLkOjjN0B526Ej1J5RPTI

โดย ทีมงานต่างประเทศ

เส้นทางสายไหมยุคใหม่

เมื่อวันศุกร์ที่ 4/12/2020 รัฐบาลตุรกีปล่อยรถไฟลำเลียงสินค้าขบวนแรกจากตุรกีปลายทางประเทศจีน โดยใช้เส้นทางสายไหมเส้นใหม่ผ่าน 2 ทวีป 2 ทะเลและ 5 ประเทศ คือตุรกี จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน คาซคัสถานและจีน ใช้ระยะทางทั้งสิ้น 8,693 กม. โดยใช้เวลาในการเดินทาง 12 วัน

รัฐบาลตุรกีประกาศปล่อยรถไฟลำเลียงสินค้าขบวนแรกจากรถไฟสินค้าจำนวน 10 ขบวนเพื่อภารกิจนี้ โดยแต่ละขบวนมี 42 โบกี้ ที่บรรทุกสินค้าจากตุรกีไปยังจีน และจากจีนไปยังประเทศยุโรป ปลายทางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวะก้าวสำคัญของประเทศตุรกีที่ดำริอภิมหาโครงการแห่งศตวรรษนี้ สู่ความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจตามวิสัยทัศน์ 2023


โดย ทีมงานต่างประเทศ

เมืองเฆนชา (Gence)

เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอาเซอร์ใบจานด้านจำนวนประชากร ซึ่งมีจำนวน 332,600 คน ตั้งอยู่บนที่ราบสูง 400 – 450 ม.กว่าระดับน้ำทะเล ห่างจากเมืองหลวงบากูไปทางตะวันตก 375 กม. มีภูมิประเทศสวยงามและมีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนถึง 494 ปีก่อนคริสตศักราช มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย

ช่วงสงครามอาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจานที่ผ่านมา กองกำลังอาร์เมเนียได้ถล่มเป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 61 คน บาดเจ็บ 282 คน อาคารราชการจำนวน 341 แห่งได้รับความเสียหาย บ้านจำนวน 1,846 หลังถูกถล่มราบ อะพาร์ตเมนท์จำนวน 90 อาคารเสียหายยับเยิน รัฐบาลตุรกีและอาเซอร์ไบจานกล่าวหารัฐบาลอาร์เมเนียเป็นอาชญากรสงคราม แต่อาร์เมเนียปฏิเสธ

หลังสงครามสงบ ประชาชนกลับไปยังหมู่บ้านของตนเอง ท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเรือนที่ถูกก่อการร้ายในนามรัฐบาลอาร์เมเนียถล่มจนราบคาบ

สื่อกระแสหลักระดับโลก ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ แม้กระทั่งมุสลิมบางคน ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า อาร์เมเนียคือใคร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลอาร์เมเนียได้สร้างวีรกรรมโฉดต่อชาวอาเซอร์ไบจานอย่างไรบ้าง

อ้างอิงจาก

https://www.aljazeera.net/news/politics/2020/10/17/معارك-قره-باغ-إسقاط-طائرة-مسيرة


โดย ทีมงานต่างประเทศ

PKK ลูกรัก…..ก่อการร้าย

PKK คือใคร?

PKK ย่อมาจาก Partya Karkeren Kurdistan แปลว่า พรรคแรงงานเคิร์ดิสถาน ก่อตั้งปี 1978 โดยผู้นำเคิร์ดชื่อนายอับดุลลอฮ์ โอจลาน มีอุดมการณ์เลื่อมใสลัทธิมาร์กซ์- เลนิน มีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งรัฐเคิร์ดอิสระ ที่เรียกว่ารัฐเคิร์ดอันยิ่งใหญ่ ที่ครอบคลุมพื้นที่ในซีเรีย อิรัก อิหร่านและตุรกี มีศูนย์บัญชาการที่จังหวัดดิยาร์ บักร์ เมืองทางตอนใต้ของตุรกี ในช่วงแรกได้รับการสนับสนุนทางด้านการฝึกฝนกองกำลังจากรัฐบาลซีเรีย ยุคฮาฟิศ อะซัดเป็นผู้นำ และเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการก่อการร้ายยาวนานกว่า 40 ปี ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ชาวตุรกีกว่า 40,000 ศพ

ระหว่างปี 1980-1990 พวกเขาเริ่มปฏิบัติการด้วยการโจมตีชาวตุรกีเป็นเป้าหมายหลัก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เผาทำลายหมู่บ้าน สังหารผู้บริสุทธิ์ทั้งเด็กและสตรี

ปี 1998 นายโอจลานถูกขับออกจากซีเรีย ไปกบดานที่เทือกเขากันดีลทางภาคเหนือของประเทศอิรัก และได้กลายเป็นฐานที่มั่นใหม่ของพรรคนี้ จนกระทั่งปัจจุบัน

PKK ถูกรัฐบาลตุรกีปราบปรามอย่างหนัก จนกระทั่งนายโอจลาน ถูกจับตัวที่ประเทศเคนยาและถูกส่งตัวกลับตุรกีและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

ระหว่างปี 1999-2004 ตุรกี รวมทั้งสหรัฐอเมริกา  ซีเรีย และประเทศสหภาพยุโรปประกาศ PKK อยู่ในบัญชีกลุ่มก่อการร้าย ในขณะที่รัสเซีย จีน อิยิปต์และอินเดียไม่ถือว่า PKK เป็นกลุ่มก่อการร้าย

ช่วงเวลาดังกล่าว เกิดกลุ่มติดอาวุธใหม่ที่มีอุดมการณ์อันเดียวกันกับ PKK และถือเป็นสาขา PKK ก็ว่าได้ภายใต้ชื่อ PYD หรือพรรคประชาธิปไตยเคิร์ด-ซีเรีย และพรรค YPG หรือพรรคปกป้องประชาชน โดยทั้งสองกลุ่มนี้มีกองกำลังตามตะเข็บชายแดนตุรกี-ซีเรียซึ่งมีความยาวกว่า 900 กม.  และตุรกี-อิรักที่มีความยาวกว่า 300 กม.

พวกเขาตั้งชื่อกลุ่มหลอกลวงชาวโลกว่าเป็นกลุ่มประชาธิปไตย แต่อุดมการณ์จริงๆคือสังคมนิยมซ้ายจัดที่เลื่อมใสอุดมการณ์มาร์กซ์-เลนิน ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการให้การสนับสนุนทั้งอาวุธและสรรพกำลังอย่างเต็มรูปแบบ

สหรัฐอเมริกาและประเทศยุโรปจึงทำตัวเป็นคนเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ด้วยการสนับสนุนและฝึกอาวุธให้กับ YPG และ YPD โดยเฉพาะเยอรมันและฝรั่งเศส ทั้งๆที่รู้ๆกันอยู่ว่า พวกเขาคือสองด้านของเหรียญอันเดียวกันกับกลุ่มยี่ห้อ PKK

แต่ที่แย่ไปกว่านั้น เวลานึกชอบปลาไหลขึ้นมา ก็เรียกปลาไหลเป็นปลาทู แล้วนำไปกินทั้งตัวทั้งน้ำ ทั้งๆที่เป็นปลาไหลเดิมๆ

ระหว่างปี 2012-2015 กลุ่ม PKK ประกาศ 16 จังหวัดทางตอนใต้ตุรกีเป็นเขตปกครองพิเศษ ทำให้ตุรกียกกองกำลังปราบปรามอย่างหนักจนหมดพิษสง แต่พวกเขาไปก่อตัวใหม่ที่แนวตะเข็บชายแดนตุรกี-ซีเรีย ในนามกลุ่ม PYD จนกระทั่งสามารถครอบครองดินแดนซีเรียตามชายแดนตุรกีราว 1/3 ของซีเรียทีเดียว น่าแปลก ที่บัชชาร์ อะสัดไม่ได้แสดงอาการตกใจแต่อย่างใด แถมยังเปิดไฟเขียวให้กลุ่มนี้ขนย้ายอาวุธสงครามได้อย่างอิสระ เพราะในความเป็นจริง PYD ไม่ได้มีเป้าหมายยึดครองซีเรีย แต่ต้องการสั่นคลอนตุรกีและเฉือนแบ่งแผ่นดินตุรกีตามอุดมการณ์ของ PKK ต่างหาก

ตุรกีจึงประกาศปฏิบัติการกิ่งมะกอก ( Operation Olive Branch) ในปี 2018 โดยกองกำลังตุรกีผสมกับกองกำลังปลดแอกซีเรียบุกทำลายฐานที่มั่นของกลุ่ม PYD อย่างราบคาบพร้อมขับไล่กองกำลังก่อการร้ายนี้ออกจากพรมแดนตามแผนของตุรกี น่าแปลกที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปรวมทั้งซีเรียไม่พอใจแผนปฏิบัติการของตุรกีครั้งนี้อย่างยิ่ง

 เช่นเดียวกันที่ ก่อนหน้านี้ระหว่างเดือนสิงหาคม 2016 – มีนาคม 2017 กองกำลังตุรกีได้ปฏิบัติการโล่ห์ยูเฟรทีส (Operation Euphrates Shield) ทางภาคเหนือซีเรีย จนสามารถขับไล่กองกำลัง YPG/PYD รวมทั้ง IS ได้สำเร็จ โดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนกว่า ทั้งๆที่ชาติพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐอเมริกาหลายสิบประเทศปราบปรามกลุ่มนี้มา 4 ปีกว่าแล้ว

สาเหตุประการเดียวเพราะ ผู้ปราบและผู้ถูกปราบคือกลุ่มเดียวกัน  แทนที่หมอจะรักษาคนป่วย แต่กลับเป็นคนแพร่เชื้อโรคด้วยตนเอง เชื้อร้ายจึงระบาดไปทั่ว

TRT World  สำนักข่าวตุรกีได้เผยแพร่ภาพที่อธิบายเรื่องราวของผู้ปกครองชาวตุรกีเชื้อสายเคิร์ด ซึ่งได้สูญเสียลูกหลานทั้งชายหญิง อายุระหว่าง 14-25 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่จังหวัดดิยาร์ บักร์ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่ม PKK ที่ได้ลักพาตัวหนุ่มสาวและล้างสมองพวกเขาให้หลงเชื่อตามอุดมการณ์อันตรายของพวกเขา จนหลายคนต้องเสียชีวิตในปฏิบัติการพลีชีพเเละเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทำให้พ่อแม่ต้องสูญเสียลูกรักก่อนวัยอันควร

บรรดาผู้ปกครองจึงได้รวมตัวพร้อมถือรูปถ่ายของลูกหลานที่ถูกลักพาตัวพร้อมเรียกร้องให้กลุ่มก่อการร้ายนี้ส่งตัวลูกให้อยู่ในอ้อมกอดของแม่อีกครั้ง พวกเขาได้รวมตัวมานานกว่า 400 วันแล้ว ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม

Hamza Tekin นักเขียนและนักข่าวตุรกีกล่าวว่า ในขณะที่ผู้ปกครองชาวตุรกีนับร้อยพากันรวมตัวชุมนุมเรียกคืนลูกหลานที่ถูก PKK ลักพาตัว แต่สื่อทั่วโลกทั้งสื่ออาหรับและต่างชาติพากันเงียบกริบ พวกเขาไม่เคยเขียนข่าวและพูดถึงเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นทุกวันนานกว่า 400 วันแล้ว

“หากมีชาวตุรกี 10 -20 คน ลุกขึ้นประท้วงรัฐบาลแอร์โดอาน พวกเขาจะต้องกระพือข่าวใหญ่โตเสมือนโลกจะแตกแน่นอน นี่คือตัวอย่างของความปลิ้นปล้อนและไร้จรรยาบรรณของสื่อยุคปัจจุบัน” นาย Hamza Tekin กล่าวทิ้งท้าย

PKK, PYD,YPG รวมทั้ง กลุ่มรัฐอิสลาม IS ถึงแม้จะมีชื่อที่ต่างกัน แต่สุดท้าย สถานีปลายทางของพวกเขาคือสั่นคลอนประเทศตุรกี ที่มีผู้นำอย่างแอร์โดอาน

ฝากท่านผู้อ่านคิดต่อว่า หากไม่ใช่เพราะแอร์โดอาน และหากไม่ใช่เพราะตุรกีได้นำความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติของการพัฒนาเหมือนปัจจุบัน ถามว่า ชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา มีความจำเป็นสร้างตัวละครเหล่านี้หรือไม่ ?


โดยทีมข่าวต่างประเทศ