นักเรียนปอเนาะจะนะเรียกร้องปกป้องสิ่งแวดล้อม

นักเรียนปอเนาะจะนะเรียกร้องปกป้องสิ่งแวดล้อมท่ามกลาง นร.นศ.ส่วนกลางเรียกร้องประชาธิปไตยอุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ผู้ประสานงานกลุ่มโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม(ปอเนาะ) จะนะ : รายงานจากจะนะ
[email protected]
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก
ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

16 สิงหาคม 2563 และก่อนหน้านี้นักเรียน นักศึกษาส่วนกลางกรุงเทพมหานคร กำลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อหรือยกระดับ10ข้อ เกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญให้สู่ประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากล และบางเรื่องบางประเด็นที่เป็นเรื่องใต้พรมสู่เวทีสาธารณะจนเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้แกนนำสามคนโดนจับและปฏิเสธไม่ได้ว่า กำลังทำให้เกิดข้อถกเถียงในวงกว้างจนนำความแตกแยกสองฝากสองฝั่งของคนในชาติ ในขณะที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตัวแทนนักเรียน ครู อุสตาส โต๊ะครูและผู้บริหารจาก
โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม(ปอนาะ)กว่า 1,000 คน ออกมาแสดงพลัง ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้ทบทวนนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เพื่อหยุดยั้งความขัดแย้งในชุมชนแม้บางฝ่ายมองว่า “เป็นการเมืองเพราะออกมาเคลื่อนไหวตรงกับเวทีนักศึกษาที่กรุงเทพมหานครที่สำคัญการปราศรัยของนักศึกษาชายแดนภาคใต้ที่ปัตตานีและกทม.ก็มีการพูดถึงจะนะเมืองอุตสาหกรรมในข้อเรียกร้องด้วย”
กล่าวคือ

“วันนี้ 16 สค.63 (10.00 น.) .ณที่ว่าการอำเภอจะนะจังหวัดตัวแทนนักเรียน ครู อุสตาส โต๊ะครูและผู้บริหารจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม(ปอเน๊าะ)กว่า 1,000 คน ออกมาแสดงพลัง ยื่นหนังสือผ่านนายอำเภอจะนะ..ถึงนายกรัฐมนตรี…และเลขาธิการศูนย์อำนายการจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต)…#ให้ทบทวน”#โครงการจะนะเมืองอุตสาหกรรมต้นแบบ”..ที่ ศอ.บต.ผลักดันให้มีนิคมอุตสาหกรรมจะนะขนาดใหญ่.ซึ่งอาจกระทบต่อทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และสังคมวัฒนธรรมของประชาชนทุกภาคส่วนในอำเภอจะนะ..

ใน 6 ข้อเสนอแนะโดยเริ่มกระบวนการใหม่อย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในอำเภอจะนะ…ตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ..จึงเป็นทางออกที่จะนำมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของอำเภอจะนะในที่สุด…

ทำไมต้องออกมาขย่มรัฐนี้ช่วงนี้

โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แห่งที่ 4 ในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่นำพื้นที่ของอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มาพัฒนาเป็น ‘เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต’ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ชุมชน เนื้อที่การพัฒนา 16,753 ไร่ ใช้เงินลงทุนกว่า 18,680 ล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนสร้างความแตกแยกของชุมชนตามปรากฎในหน้าสื่ออีกครั้ง หลังข่าวโควิดโดยเฉพาะหลังเวที วันที่11 กรกฎาคม 2563
แม้แต่กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร ชี้ชัด “ศอ.บต.” นำงบฯ ประจำไปจัดเวที 11 ก.ค.ดัน “จะนะเมืองอุตฯ ก้าวหน้าแห่งอนาคต” ต้องการเปลี่ยนสีผังเมืองแบบคลุมเครือ ทำผิดทั้งรัฐธรรมนูญปี’60 และขัดระเบียบสำนักนายกฯ มากมายเงื่อนงำ ซับซ้อน ความพิลึกพิลั่น ยันประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ส่อเอื้อแต่ “ทีพีไอ” ยักษ์ใหญ่พลังงานและปิโตรเคมี
(โปรดดู >> https://mgronline.com/south/detail/9630000075633)

อะไรคือบทเรียน

อันเนื่องมาจากชาวจะนะได้บทเรียนโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งคณะนักศึกษาหลักสูตรการเสริมสร้างสันติสุข สถาบันพระปกเกล้าหรือที่เรียกว่า 4 ส รุ่นที่ 8 นำโดยนายแพทย์นันทวัช สิทธิรักษ์ได้สรุป ว่า

1. แก่นหลักที่นำมาสู่ความขัดแย้งและความแข็งขืนต่อต้านโครงการนี้ในนภาพรวมคือ ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน (no trust) ประเด็นหลักที่พบได้แก่ ชุดข้อมูลที่ฝ่ายรัฐและแนวร่วมรัฐหรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตดำเนินโครงการมีอยู่มักถูกเผยแพร่สู่สาธารณะในวงจำกัด ไม่เป็นปัจจุบัน และมีการตัดทอนหรือเซ็นเซอร์ ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรืออาจให้ข้อมูลไม่ตรงตามเอกสารจริง ในขณะที่อีกฝ่ายที่เป็นองค์กรเอกชนถูกอีกฝ่ายอ้างด้วยเช่นกันว่าข้อมูลด้านตรงกันข้ามรวมทั้งมีการใช้วาทกรรมสร้างความแตกแยก

2. การไม่ยอมรับผลการประเมิน EIA (Environmental Impact Assessment) คือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม” EHIA (Environment and Health Impact Assessment) คือการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ โดยให้มีส่วนร่วมและรับฟังเสียงจากประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียจากหลายเหตุผล

3. กระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่รวบรัด ดำเนินการโดยฝ่ายรัฐหรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตดำเนินโครงการแต่เพียงฝ่ายเดียว

4. ความไม่ยืดหยุ่นของเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์โครงการที่สอดรับกับความต้องการของประชาชน

5. กระบวนการลดผลกระทบเชิงลบและการเยียวยาของโครงการที่มีต่อประชาชนที่มิได้ศึกษามิติต่างๆ ทั้งระดับปัจเจก ชุมชน สังคม และจิตวิญญาณ ทั้งที่สามารถตีค่าทางเศรษฐศาสตร์ได้ (tangible) และมีคุณค่าที่ไม่สามารถตีค่าเป็นตัวเลขได้ชัดเจน (intangible) อย่างรอบด้าน

6. ไม่มีกระบวนการติดตามโครงการที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ในส่วนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันสอนศาสนาอิสลามในอำเภอจะนะ ซึ่งมีผู้เรียนประมาณ 20,000 คน ผู้นำศาสนา ครูศาสนาและสามัญ ประมาณ 2,000 คน กำลังกังวลผลกระทบของสถานศึกษา บุคคากร และผู้เรียน วิถีวัฒนธรรมอิสลามอันดีงาม ซึ่งยังมิได้รับการประเมินรวมทั้งมิสามารถประเมินตีค่าเป็นตัวเลขได้ชัดเจน (intangible) อย่างรอบด้าน

ขนาดโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ยังไม่ลง มีแหล่งบันเทิง และมีการนำมโหรสพวงดนตรี มาแสดงในชุมชนมุสลิม 100%
อะไรคือทางออก
จากเหตุดังกล่าวข้างต้น
หากจะเดินหน้าทำตาม ปณิธาน “จะนะเมืองน่าอยู่ มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ กันความไม่ไว้ใจ
ดังนั้น ทางออกที่วินๆ(ชนะ)ทุกฝ่าย ถ้าจะเชื่อใจ บริสุทธิ์ว่า เพื่อประชาชน จึงขอเรียกร้องและเสนอแนะดังนี้
1. ให้มีการทบทวนโครงการนี้ (มติ ครม.เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 และ 21 มกราคม 2563 ) เนื่องจากเป็นมติที่อนุมัติโดยรัฐบาล คสช.โดยขาดข้อมูลทางวิชาการ และไม่ได้ฟังเสียงของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการมาก่อน
2. ไม่นำผลของการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน(11 กรกฎาคม 2563)เพื่อเปลี่ยนแปลงผังเมือง อันเนื่องมาจากเวทีดังกล่าว มีข้อครหาในความโปร่งใสในการจัดเวที
3. เปิดพื้นที่กลางปลอดภัยการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติวิธี
4. ไม่คุกคามผู้เห็นต่างจากรัฐ
5. ไม่นำอบายมุข มโหรสพ เช่นดนตรีและอื่นๆที่หมิ่นแหม่ผิดหลักศาสนาเข้ามาในชุมชนมุสลิมจะนะ
6. เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้นำศาสนา ครูและนักเรียนร่วมออกแบบตามหลักวิชาการและมาตรฐานสากล(ทั้งต้นนำ้ กลางและปลายนำ้)เพื่อพัฒนาจะนะสู่ชุมชนมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอันจะสร้างความชอบธรรมทั้งกระบวนการและกฎหมายซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น ช่วงระยะๆ ได้แก่

ขั้นตอนที่ 1 ก่อนการตัดสินใจดำเนินโครงการต้องเปิดให้มีส่วนร่วมที่น่าเชื่อถืออย่างรอบด้าน

ขั้นตอนที่ 2 การร่วมกำหนดเป้าหมายโครงการที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและความจำเป็นของรัฐ

ขั้นตอนที่ 3 กระบวนการลดผลกระทบโครงการและการเยียวยาอย่างมีส่วนร่วม

ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างมีส่วนร่วม

ปัญหาการประท้วงที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ต่อโครงการลักษณะนี้ซึ่งจะกระทบเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษา วิถีวัฒนธรรมและสิทธิชุมชนจนบานปลายสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือถ้าได้รับการอนุมัติหรือไม่อนุมัติอย่างไร สังคมในพื้นที่และภายนอกจะยอมรับได้ในกติกานี้ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือหนุนปัญหาการไม่ยอมกันคงมีแต่อาจจะน้อย การประท้วงหน้าทำเนียบก็คงจะลด หรือถ้ามีประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นโล่ให้รัฐเพราะผ่านกระบวนการที่โปร่งใส เป็นธรรม และมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน

บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ ผู้บริหารโรงเรียนศาสนบำรุงและที่ปรึกษาสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาจังหวัดสงขลา ให้ทัศนะว่า “โครงจะนะเมืองอุตสาหกรรม ในการต่อเพื่อสัจจธรรมนั้น ไม่ว่าจะคว้าชัยหรือเเพ้พ่ายทุกอย่างก้าวคือความรับผิดชอบ ทุกดีตัดสินใจคือตำนานให้รุ่นหลังได้เล่าขาน ว่า เราได้เตือนและชี้แนะตามวิถีของเรา และปกป้องสิ่งที่ควรปกป้อง มิได้เป็นเครื่องมือของผู้ใด ไม่มีเรื่องการเมืองแม้เราจะเคลื่อนช่วงนักเรียน นักศึกษา (นร.นศ.)ส่วนกลางเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อควำ่รัฐบาล วันนี้เรามาเยอะก็จริงแต่มาแค่ยื่นหนังสือ และถ่ายภาพเชิงสัญญลักษณ์ประกาศให้สังคมภายนอกได้รู้ได้ประจักษ์”
อย่างไรก็แล้วแต่ปัญหาจะที่ชายแดนภาคใต้หรือส่วนกลางที่กำลังเร้าร้อน และเปลี่ยนผ่านจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่มันไม่สามารถปราศจากกระบวนการประชาธิปไตยว่าด้วยสงครามความคิดกับการจัดการความขัดแย้งโดยเปิดพื้นที่ปลอดภัยทางการเมืองไทย” (Political Space in Thailand ) ซึ่งอาจต้องในวาระต่อไป

ชมคลิป/ภาพที่นี่

ขอเเสดงความยินดีกับทีม มฟน.ชนะเลิศอันดับ 1 โครงการ Generation Unlimited

ขอเเสดงความยินดีกับทีม Muallim ทีมนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฎอนี ซึ่งได้รับการ Incubate จาก Nureen Pakdee และ Muslimah Tohlong จาก #Digital4Peace 

ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประเทศ ของการแข่งขันในโครงการ Generation Unlimited เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม โดย UNICEF Thailand , UNDP Thailand , และ Saturday School

รายชื่อนักศึกษา ได้แก่
1.นิสมา ฆอแด๊ะ สาขาการสอนอิสลาม ปี 3
2.นูรไลลา ดอคา สาขาการสอนภาษาอังกฤษ ปี 3
3.นาดีเราะห์ เวาะแห สาขาการสอนภาษาอาหรับ ปี 3
มี อ. ซูรัยดา สะมะแอ และ อ. มุสลีมะห์ โต๊ะหลง เป็นที่ปรึกษา ( Mentor)

ต่อไปนี้ทีม Muallim จะเป็น 1 ใน 2 ตัวเเทนของประเทศไทยไปแข่งขันบนเวทีระดับโลก

Digital4Peace
#theIncubator
#PeaceIncubator


ที่มา : Digital4Peace ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ

กำหนดวันที่ 1 ของเดือนซุ้ลฮิจยะห์ และวันอีฎิ้ลอัดฮา ฮ.ศ.1441

ตามที่ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนซุ้ลฮิจยะห์ ฮ.ศ.1441 ในวันอังคาร ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2563 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฎว่าในวันและเวลาดังกล่าว มีผู้เห็นดวงจันทร์

จึงขอประกาศว่า วันที่ 1 ของเดือนซุ้ลฮิจยะห์ ฮ.ศ.1441 ตรงกับวันพุธ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2563 และวันอีฎิ้ลอัดฮา ฮ.ศ.1441 ตรงกับวันศุกร์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2563 จึงขอให้พี่น้องมุสลิมทั่วประเทศได้ปฏิบัติศาสนกิจในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2563

สกอท. ยกเลิกการใช้เครื่องหมายฮาลาล

ฝ่ายกิจการฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (สกอท.) ได้ประกาศยกเลิกการใช้เครื่องหมายฮาลาล บริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนสจำกัด จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหนังสือ สกอท. 06.1176/2563 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2563 ความละเอียดดังนี้

เรื่อง ยกเลิกการใช้เครื่องหมายรับรองฮาลาลบริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนสจำกัด

เรียน กรรมการผู้จัดการบริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนสจำกัด

ตามที่ฝ่ายกิจการสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้รับรายงานการเชือดไก่ที่เชือดโดยใช้ไฟฟ้าในการ Stunning เกินค่าที่สามารถยอมรับได้ เป็นผลทำให้ไก่ที่ผ่านการ Stunning ตายก่อนการเชือดเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 และโรงงานได้นำไก่ดังกล่าวเข้าในระบบการผลิต ไม่ได้แยกออก ทำให้ไก่ที่เชือดไม่ถูกต้อง (ฮารอม) เข้าไปในการผลิตปกติ

ในเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ฝ่ายกิจการฮาลาลได้ตั้งคณะทำงานดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเชิญผู้แทนจาก 3 ฝ่ายให้ข้อมูลประกอบด้วย

(1) ผู้ควบคุมเชือดสัตว์ 2 คน (นายอำนาจ มีทองคำและนายอนุวัฒน์ หวังเจริญ)
(2) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเพชรบูรณ์
(3) ผู้แทนบริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนสจำกัด

คณะทำงานได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงนำเสนอฝ่ายกิจการฮาลาล สกอท. และผลการประชุมพิจารณาเมื่อวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 มีมติให้ยกเลิกหนังสือสำคัญให้ใช้เครื่องหมายรับรองฮาลาลของบริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนสจำกัด และผู้ว่าจ้างผลิต (OEM) ทุกทะเบียนที่ให้การรับรองฮาลาลและให้บริษัทเก็บผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายรับรองฮาลาลบนผลิตภัณฑ์ออกจากท้องตลาดให้หมดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงนามในหนังสือฉบับนี้

จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินการตามมติฝ่ายกิจการฮาลาล สกอท.

ขอแสดงความนับถือ
นายสมาน อาดัม
รองเลขาธิการ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

เปาะวอแม ตำนานแห่งบางปู

วันนี้ 8 เชาวาล 1441 (31 พ.ค. 2563) ได้มีโอกาสละหมาดญะนาซะฮ์เปาะซูแม หรือเป็นที่รู้จักในนามเปาะวอ (86 ปี) ที่มัสยิดอัตตะอาวุน บางปู เวลา 13.00 น.

“ตลกแห่งบางปู”
“บุรุษในตำนานอัตตะอาวุน”
“ผู้เฒ่าจิตอาสา”
“เปาะวอ ชายชราผู้มีแต่ให้”
“ชายธรรมดาที่มีใจไม่ธรรมดา”
ฉายาเหล่านี้ ไม่ได้มาด้วยเวลาอันฉาบฉวย แต่เป็นการสะสมผลงานอันยาวนานจนกลายเป็นตำนานเล่าขาน ส่วนที่มาของแต่ละฉายา มีเรื่องเล่าที่ซุกซ่อนอันมากมาย

غفر الله له ورحمه وأسكنه فسيح جناته ورزق لأهله وذويه الصبر والسلوان
وإنا لله وإنا إليه راجعون


อาลัยลา….เปาะซูแม….
บุรุษในตำนานแห่งอัตตะอาวุน

*****//**/********//************

ชาวบางปู สิ้นแล้วเฒ่า ผู้อุทิศ
ร่วมคิดสร้าง ตะอาวุน จนยิ่งใหญ่
ท่านจากไป ทิ้งความดี ประดับใน
ณ ดวงใจ ฤทัยรัก ตลอดกาล

ขอพระองค์ ทรงเมตตา อภัยท่าน
โปรดประทาน รางวัล สูงสถาน
ด้วยสวรรค์ ที่สถิต แสนยาวนาน
สุขศานติ ที่แดนนั้น นิจนิรันดร์


ด้วยรักและเคารพ…
Qamaruddin Abdul-Muntaqim Al-Jamali

31 May 2020 / 8 Syawal 1441

บรรยากาศละหมาดอีดิลฟิฏร์ ณ มัสยิดดารุลอามาน โสร่ง

ชาวบ้านและสัปบุรุษมัสยิดดารุลอามาน หมู่บ้านโสร่ง ทำนบ ม.3 ต. เขาตูม อ. ยะรัง จ. ปัตตานี ราว 800 คน ได้ร่วมละหมาดสุนัตอีดิลฟิฏร์ ณ ลานบริเวณมัสยิด ท่ามกลางมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ผศ. มัสลัน มาหะมะ ในฐานะผู้อ่านคุตบะฮ์ได้กล่าวถึงบรรยากาศที่ชาวโลกต้องประกาศสงครามโรคระบาดนี้ ซึ่งถือเป็นบททดสอบจากพระผู้เป็นเจ้าที่ต้องการจัดระเบียบโลกใหม่และย้ำเตือนให้มนุษย์กลับไปสู่พระองค์ด้วยหัวใจที่สำรวม พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักรู้และปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบ่าวผู้ศรัทธา

อิมามซะการียา กีไร อิมามประจำมัสยิดดารุลอามาน กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี หน่วยงานราชการทุกภาคส่วน ที่ได้อนุญาตให้มัสยิดดารุลอามาน โสร่งจัดละหมาดอีดิลฟิฏร์ ท่ามกลางการเฝ้าระวังการเผยแพร่ของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพี่น้องทุกท่าน

จุฬาราชมนตรีออกมาตรการผ่อนปรนละหมาดวันศุกร์

จุฬาราชมนตรีออกมาตรการผ่อนปรนการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะละหมาดวันศุกร์ พร้อมแนวทางปฎิบัติ

แต่ยังให้งดกิจกรรมทางศาสนาที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มทุกประเภท

โดยให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดใช้ดุลยพินิจร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด โดยขอคำปรึกษาหารือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ตามนัยของประกาศจุฬาราชมนตรี ฉบับที่ 5/2563 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2563

พร้อมแนะนำวิธีการและแนวทางมาตราการป้องกันอย่างรัดกุมและเคร่งครัด

เปิดตัวหนังสือคู่มือโควิด-19 ภาษามลายู-รูมี ผ่านประชุมทางไกล

เปิดตัวทางการหนังสือคู่มือเผชิญโรคระบาดโควิด 19 ภาคภาษามลายู อักษรรูมี ผ่านระบบประชุมทางไกล (Video conference)

เมื่อวันอังคารที่ 14 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาในเมืองไทย รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี เปิดตัวหนังสือคู่มือเผชิญโรคระบาดโควิด-19 ภาคภาษามลายู อักษรรูมี ผ่านระบบประชุมทางไกล (Video conference) โดยมี ฯพณฯ YB. Dato’ Seri Dr. Zulkifli AL-Bakri รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Dato’ Syeikh Haji Abdul Halim Abdul Kadir ประธานสภาอุละมาอฺมาเลเซีย และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือครั้งนี้

อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอชุโกร์ต่ออัลลอฮ์ ท่ามกลางโลกกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตร้ายแรงขณะนี้ ด้วยความร่วมมือจากสภาอุละมาอฺมาเลเซีย (Persatuan Ulama Malaysia-PUM) ได้เปิดตัวหนังสือ “คู่มือเผชิญโรคระบาด คำแนะนำเนื่องในวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) “ ภาคภาษามลายู อักษรรูมี ซึ่งได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ฯพณฯ YB.Dato’ Seri Dr. Zulkifli AL-Bakri รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนา ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เพิ่มความบารอกะฮ์และมีคุณค่ายิ่งขึ้น ขอขอบคุณ ฯพณฯ เป็นอย่างยิ่ง ขอขอบคูน Dato’ Syeikh Haji Abdul Halim Abdul Kadir ประธานสภาอุละมาอฺมาเลเซีย และพี่น้องทุกท่านจากมาเลเซียที่ให้เกียรติร่วมเปิดตัวหนังสือเล่มนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนามาเลเซียกล่าวว่า รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสใช้ประโยชน์กับเทคโนโลยียุคใหม่ เปิดตัวหนังสือผ่าน Video conference ในวันนี้ ขอบคุณ รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ที่ได้เขียนหนังสือที่มีคุณค่ายิ่ง พร้อมนำเสนอหลักคำสอนและแนวปฏิบัติที่สามารถเป็นคู่มือสำหรับมุสลิมและชนต่างศาสนิกทุกคน ในการเผชิญกับวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ ขอบคุณสภาอุละมาอฺมาเลเซียที่ตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้

“ด้วยนามของอัลลอฮ์ ข้าพเจ้าขอเปิดตัวหนังสือ “คู่มือเผชิญโรคระบาด คำแนะนำเนื่องในวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” เขียนโดย รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ตั้งแต่บัดนี้ จงมุ่งหน้าต่อไป ด้วยความบารอกัตของอัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงตอบแทนด้วยความดีงามแก่ทุกท่าน “ รมว. กิจการศาสนามาเลเซียกล่าวทิ้งท้าย


อัพเดทสถานการณ์โควิด-19 (12/4/2020)

โฆษก ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 33 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2551 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมผู้ที่เสียชีวิตสะสม 38 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 1,778,210 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุด 29,071 ราย ในบางวันมีเหยื่อโควิด-19 ต้องสังเวยชีวิตทะลุ 2,000 ราย แซงหน้าอิตาลี ที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อแห่งแรกในยุโรป

สหรัฐอเมริกา จากมหาอำนาจโลก กลายเป็นมหาประเทศผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลก

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/875634

ประธานมูลนิธิเพื่อการแพทย์และสาธารณกุศล ชื่นชมอธิการบดี มฟน.ที่นิพนธ์หนังสือคู่มือโควิด-19

นพ. อนันต์ชัย ไทยประทาน ประธานมูนิธิเพื่อการแพทย์และสาธารณกุศล ที่ปรึกษาสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณรศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ที่ได้เขียนตำราคู่มือในสถานการณ์โลกกำลังเผชิญวิกฤตโรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ความตอนหนึ่งว่า

ในฐานะที่สมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์วิชาการบูรณาการอิสลามด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้แก่ประชาชน ได้รับคำแนะนำจาก รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ให้ออกแนวทางการปฏิบัติตนของมุสลิมในช่วงแรกๆของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และท่านยังเป็นผู้นำศาสนาที่ได้รณรงค์ สร้างความเข้าใจ ชี้นำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ตั้งแต่ช่วงโรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด จนทราบมาว่า ท่านได้นิพนธ์หนังสือ “คู่มือเผชิญโรคระบาด คำแนะนำเรื่องในวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) “ ซึ่งถือว่าเป็นหนังสือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งและจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องมุสลิมและมนุษย์ทุกคน เพราะสิ่งที่โลกกำลังเผชิญในเวลานี้ นอกจากความรวดเร็วและความรุนแรงในการแพร่ระบาดของโรคแล้ว ที่สำคัญคือการตื่นตระหนก ( Panic) ที่มากเกินไปของประชาชนโดยเฉพาะจากการเสพข้อมูลข่าวสารที่ขาดการคัดกรองอย่างมีสติและผ่านการมอบหมายต่ออัลลอฮฺ(ตะวักกัล) ที่ถูกต้อง

ในหนังสือเล่มนี้ ท่านได้สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในมุมมองของวิทยาศาสตร์และศาสนา ในการเผชิญหน้ากับโรคระบาด แนวทางการปฏิบัติตนและปรับตัวในการดำเนินชีวิต รวมทั้งการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาให้สอดรับกับข้อกำหนดด้านการสาธารณสุข อันจะทำให้ตนเองมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อและไม่ทำให้ตนเองเป็นพาหะในการแพร่เชื้อให้กับบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นในสังคม

ผมจึงขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงตอบรับการงานที่ดีนี้ของรศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา และขอพระองค์ทรงประทานสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ให้แก่ท่าน เพื่อจะได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมมุสลิม สังคมไทยและประเทศชาติต่อไป

นพ. อนันต์ชัย ไทยประทาน
ประธานมูนิธิเพื่อการแพทย์และสาธารณกุศล ที่ปรึกษาสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข


ڤرساتوان بولن ثابت ميره كدوقتورن دان كصيحتن ، مروڤاكن سبواه بدان يڠ برتوجوان منجادي ڤوسة علمو اسلام برسڤادو يڠ بركاءيتن دڠن كدوقتورن دان كصيحتن كڤد سلوروه ورڬ تهاي ، تله منداڤة بيمبيڠن دان نصيحة درڤد يڠ بربهاڬيا ڤروفيسور ماديا دوكتور اسماعيل لطفي جاڤاكيا، ريكتور يونيۏرسيتي فطاني، سڤاي مڠلواركن ڤندوان مسلم ڤد ڤريڠكة ڤرتام ڤنولرن ۏايروس كوۏيد-19 برلاكو د نڬري تهاي . بليو جوڬ دانتارا ڤميمڤين اڬام دان علموان يڠ دڠن ڬيڬيه مڠاجر دان ممبري كفاهمن يڠ جلس كڤد مشاركة رامي چارا يڠ بتول مڠهادڤي ڤنولرن ۏايروس كوۏيد-19 اين سجق اول لاڬي ، بليو كمدينڽ منوليس سبواه بوكو “ ڤندوان مڠهادڤي ڤڽاكية طاعون مناسبه ۏايروس كورونا كوۏيد-19 “

بوكو اين ساڠة ڤنتيڠ دان برمنفعة باڬي قوم مسلمين دان سلوروه اومة مأنسي ، كران دنيا ڤد ماس كيني ، سدڠ٢ دسرڠ جڠكيتن ۏايروس اين سچارا برللواسا دان ترلالو چڤة . مريك دسرڠ ڤراسأن تاكوت دان ڬلوڬسه ، تراوتام اڤبيل مريك مڠيكوتي سيارن بريتا، تنڤا دكاجي سياسة ترلبيه دهولو دڠن عقل يڠ وارس دان هاتي يڠ توكل يڠ سبنر كڤد الله تعالى.

دالم بوكو اين ، ڤنوليس تله كموكاكن كاجين ٢ يڠ تڤة لاڬي ڤادة، سسواي دڠن ڤنداڠن ساءين س دان اڬام دالم مڠهادڤي وباء ڤاليڠ مربهاي اين. بوكو اين جوڬ تله مڠهيدڠ ببراڤ ڤندوان دان چارا برعمل عباده هارين اونتوق مسلم ، سجاجر دڠن اراهن بدان كصيحتن ، اڬر سلامة دري جڠكيتن دان سكاليڬوس تيدق منجڠكيتي كڤد اهلي كلوارڬ دان مشاركة رامي -دڠن ايذين الله-.

ساي برشكور كحضرة الهي دان بردعاء كڤد الله تعالى اڬر منريما عمل بايك يڠ بربهاڬيا ڤروفيسور ماديا دوكتور اسماعيل لطفي جاڤاكيا سباڬي عمل صالح . سموڬ الله ممبري كصيحتن بدان يڠ سجهترا كڤد بليو ، اونتوق تروسكن برخدمة كڤد مشاركة اسلام د رنتاو اين دان مشاركة عموم ڤد ڤريڠكة نڬارا ستروسڽ.

دقتور عارفين تايڤراتهان

يڠ دڤرتوا يايسن اونتوق كدوقتورن دان كباجيقكن ، ڤنصيحة ڤرساتوان بولن ثابت ميره كدوقتورن دان كصيحتن.