บทความ บทความวิชาการ

“มินฟิกฮ์เดาละฮ์ ฟิลอิสลาม – ศาสตร์ว่าด้วยรัฐในหลักการอิสลาม” ของชัยค์ยูซุฟ กอรฎอวีย์ [ตอนที่ 1]

รัฐศาสตร์อิสลาม น่าจะเป็นประเด็นที่กำลังร้อนฉ่าในนาทีนี้  นักวิชาการอิสลามหลายๆท่านได้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการที่แตกต่างกันไป ตามทัศนะของแต่ละท่าน

ชัยค์ยูซุฟ  กอรฎอวีย์ ปูชนียบุคคลทางวิชาการอิสลามที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากหลายๆชาติ อดีตประธานสหพันธ์อุลามาอ์นานาชาติและสภาฟัตวาแห่งยุโรป ได้เขียนตำรา  “มินฟิกฮ์เดาละฮ์ ฟิลอิสลาม – ศาสตร์ว่าด้วยรัฐในหลักการอิสลาม” เป็นหนึ่งในตำราเกี่ยวกับรัฐศาสตร์ในอิสลาม ที่ผู้เขียนวิเคราะห์สังเคราะห์จากหลักการศาสนาอิสลาม ตามแนวทางของนักปฏิรูปสังคมมุสลิมยุคหลัง   โดยเฉพาะทัศนะที่ชัยค์มุฮัมมัด ฆอซาลี ให้น้ำหนัก  ในประเด็นประชาธิปไตย พรรคการเมือง  การเลือกตั้ง  รัฐสภา  สิทธิทางการเมืองของสตรีและต่างศาสนิก และอื่นๆ

● โดยมีสาระพอสังเขปดังนี้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้วยการเกิดขึ้นของสำนักอิสลามสายกลาง และอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นในสังคมอิสลามตลอดจนความสามารถในการขยายในแนวนอนและแนวตั้งในส่วนต่าง ๆ ของสังคม การโจมตีของกลุ่มเซคคิวลาร์ต่อแนวคิดว่าด้วยรัฐในศาสนาอิสลาม เพิ่มขึ้นเพื่อขู่ขวัญผู้คนให้หวาดกลัวอิสลาม

ชนชั้นปกครองได้เริ่มเชื่อมโยงการปกครองของศาสนาอิสลามกับระบอบศาสนจักรในคริสตศาสนา  ว่าเป็นการปกครองปกครองในพระนามของพระเจ้า ถือว่าคำสั่งของผู้นำมาจากพระบัญชาของพระเจ้า ผู้ปกครองจะไม่ถูกปฏิเสธ แม้ว่าจะทำผิดพลาด  หรืออนุญาตสิ่งที่ต้องห้ามและห้ามในสิ่งที่ได้รับอนุญาต

หนังสือนี้ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจความคิด ความหมาย ลักษณะของรัฐ เพื่อทราบความจริงของศาสนาอิสลามและจิตวิญญาณของกฎเกณฑ์ทางศาสนา

● รัฐในศาสนาอิสลาม

● สถานะของรัฐในหลักการอิสลาม

นักล่าอาณานิคมในดินแดนมุสลิมสามารถปลูกฝังความเท็จว่าอิสลามเป็นศาสนา ไม่ใช่รัฐ และไม่เกี่ยวอะไรกับการปกครอง การเมือง และด้านต่างๆของชีวิต

ทั้งที่ความจริงก็คือศาสนาอิสลามคือ ศาสนาที่ครอบคลุม คัมภีร์ของอิสลามถูกประทานลงมาเพื่ออธิบายทุกอย่าง รวมไปถึงเวลา สถานที่ และมนุษย์ นี่ไม่ใช่นวัตกรรมจากสำนักอิสลามสายกลาง แต่เป็นสิ่งที่ตำราอิสลามต่างๆได้สรุปถึงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์และธรรมชาติถึงความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม

การสถาปนารัฐอิสลามเป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมที่มีความสามารถ มุสลิมจะทำบาปหากไม่ปฏิบัติ และจะไม่ได้รับความรอดจากบาปนี้ เว้นแต่ได้ปฏิเสธแม้ด้วยหัวใจเมื่อไม่สามารถ  ต่อความเบี่ยงเบนไปจากกฎหมายของอัลลอฮ์ และร่วมมือกับพี่น้องมุสลิมเพื่อสร้างชีวิตวิถีอิสลามที่ชี้นำโดยหลักการอิสลามที่ถูกต้อง

ท่านศาสนทูต-ขอพรและสันติสุขจากอัลลอฮ์จงมีแด่ท่าน- พยายามสร้างรัฐสำหรับศาสนาอิสลามและเป็นถิ่นฐานสำหรับการเรียกร้องสู่อิสลาม  ในดินแดนที่ไม่มีใครมีอำนาจนอกจากอิสลาม

นี่คือตั้งแต่วันแรกที่ท่านถูกแต่งตั้ง และตั้งแต่วันแรกที่ท่านโยกย้ายไปเรียกร้องเชิญชวนตามเผ่าต่างๆ กำลังมองหาใครสักคนที่จะช่วยท่านสร้างดินแดนของศาสนาอิสลาม จนกระทั่งอัลลอฮ์ได้ให้พบกับชาวอันซอร์ นครมะดีนะฮ์จึงกลายเป็นบ้านหลังแรกของศาสนาอิสลาม และเป็นฐานของรัฐอิสลามใหม่  ในประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิม พวกเขาไม่เคยรู้จักการแบ่งแยกระหว่างศาสนากับรัฐ  ยกเว้นเมื่อศตวรรษแห่งฆราวาสนิยม ที่กำลังมีอำนาจในยุคนี้ และนี่คือสิ่งที่ผู้ส่งสารของอัลลอฮ์ ได้บอกข่าวนี้ล่วงหน้าว่า

ألا إن رحى الإسلام دائرة، فدوروا مع الإسلام حيث دار، ألا إن القرآن والسلطان سيفترقان فلا تفارقوا الكتاب، ألا إنه سيكون عليكم أمراء يقضون لأنفسهم ما لا يقضون لكم، فإن عصيتموهم قتلوكم، وإن أطعتموهم أضلوكم، قالوا وماذا نصنع يا رسول الله، قال كما صنع أصحاب عيسى بن مريم، نُشروا بالمناشير، وحملوا على الخُشب، موت في طاعة الله خير من حياة في معصية الله

“กงล้อแห่งอิสลามจะหมุนไป ไม่ว่าอิสลามจะหมุนไปทางไหนพวกท่านจงหมุนตาม  อัลกุรอานและอำนาจปกครองจะแยกจากกัน ดังนั้นอย่าแยกจากคัมภีร์  จะมีผู้ปกครองของพวกท่านที่ปกครองเพื่อพวกเขาเอง ไม่ใช่เพื่อพวกท่าน  และหากพวกท่านไม่เชื่อฟัง พวกเขาจะฆ่าพวกท่าน และหากพวกท่านเชื่อฟังพวกเขา พวกเขาก็จะพาท่านหลงทาง” พวกเขาก็กล่าวว่า “โอ้ ท่านร่อซูลุลลอฮ์ แล้วเราจะทำอย่างไร” ท่านตอบว่า “เช่นเดียวกับบรรดาสหายของพระเยซู บุตรมัรยัม ซึ่งถูกเลื่อยด้วยเลื่อย และถูกแขวนบนไม้แขวน  ความตายโดยเชื่อฟังอัลลอฮ์ ดีกว่าการมีชีวิตโดยไม่เชื่อฟังอัลลอฮ์”


แปลสรุปโดย Ghazali Benmad